สหภาพทอท.แจงยิบปม “เซ็นทรัล วิลเลจ “ห่วงกระทบความปลอดภัยทางการบิน

​นายณัฐวุฒิ​ ทาอินต๊ะ​ ประธานสหภาพ​แรงงาน​บริษัท​ ท่าอากาศยาน​ไทย​ จำกัด ​(มหาชน) ​(ทอท.) กล่าวว่า ทอท. อยู่ในสถานะผู้ได้ใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 (ฉบับแก้ไข พ.ศ.2558) มาตรา 60/15 ที่มีการระบุถึงการรักษาสนามบินดูแลการบริการภายในสนามบินอนุญาตให้เป็นไปมาตรฐานที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน

ประกอบกับกฎหมายอื่นที่ประกาศกำหนดให้มีหน้าที่ตามคู่มือการดำเนินงานสนามบินที่มีหน้าที่ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และรายงานตามที่ระบุไว้ในคู่มือ การดำเนินงานสนามบินทั้งภายในเขตหรือบริเวณใกล้เคียงสนามบิน อันจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยสนามบิน

รวมทั้งใช้การดำเนินการตามเงื่อนไขท้ายใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ที่สนามบินต้องดำเนินการตามกระบวนการที่รัฐกำหนดตามกรณีที่ระบุ เช่นกรณี Air display นอกจากนี้​ ทอท.ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายในฐานะสนามบินรับรองสาธารณะใช้ดำเนินการ​ได้แก่

​1. พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 (ฉบับแก้ไข พ.ศ.2558) มาตรา 60/15 หน้าที่ผู้ได้ใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ และมาตรา 58 59 60 เรื่องเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ

​2. เงื่อนไขและข้อจำกัดประกาศท้ายใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะทุกแห่ง

​3. ข้อบังคับคณะกรรมการการบินพลเรือน ที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่อง

4. Standard and recommend practices ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization – ICAO)ที่รัฐยังออกกฎหมายมาบังคับใช้ไม่ครอบคลุม ก็จะบูรณาการกับผู้เกี่ยวข้อง

กรณีการก่อสร้างห้างเซ็นทรัล​ วิลเลจ ในเขตความปลอดภัยทางการบินที่ ทอท.มีอำนาจทางกฎหมายทางการบิน ทอท.จะต้องรับผิดชอบ หากไม่ดำเนินการใดๆ เพราะหากมีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจการ การบินแล้วพบว่า การนำมาตรฐาน ICAO มาใช้บังคับในประเทศ (Effective Implementation หรือ EI) ของประเทศไทยไม่เป็นไปตามที่กำหนด หรือมาตรฐานการบริหารความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทย มีข้อบกพร่อง (ติดธงแดง) จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติมากกว่านั้น

ซึ่งที่ผ่านมาการตรวจสอบไม่ใช่เฉพาะเรื่องความสูงเท่านั้น แต่ยังมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพราะถึงแม้ว่า พื้นที่ของเซ็นทรัล วิลเลจ จะอยู่นอกเขตสนามบิน แต่ก็เป็นบริเวณใกล้เคียงสนามบิน (vicinity of Aerodrome) ที่แม้ว่าไม่ได้อยู่ในการกำกับของสนามบินโดยตรง แต่การที่จะมีผู้ใดที่มีพื้นที่ อยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบิน

โดยเฉพาะในแนวบินร่อนลง (take off & approach ) จะมีกิจกรรมใดๆ หรือใช้พื้นที่ก่อสร้างจะอยู่ภายใต้การกำกับตรวจสอบจากรัฐ(กพท.) ที่จะต้องตรวจสอบกิจกรรมดังกล่าว ว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบินหรือไม่ โดยนอกจากการตรวจสอบสิ่งก่อสร้างอันเป็นสิ่งกีดขวางในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศแล้ว ต้องพิจารณา ประเด็นต่างๆ ดังนี้

​1. การรบกวนสัญญาณเครื่องช่วยในการเดินอากาศ

​2. แสงไฟภายนอกสนามบิน (non aeronautical light ) อันส่งผลต่อการปฏิบัติการบิน ที่ต้องมีการควบคุมตามข้อกำหนด ICAO

3. กิจกรรมที่อาจเกิดมีควัน ที่ส่งผลให้ทัศนวิสัยสนามบินลดลง โดยเฉพาะการมองเห็นทางวิ่งในแนวร่อนลง

​4. กิจกรรมที่อาจนำไปสู่การนำนกมาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

5. Laser emission free zone ที่ต้องมีการควบคุมออกไปภายนอกสนามบินตามข้อกำหนด ICAO

​6. กิจกรรมอันส่งผลต่อแผนแม่บทและแผนพัฒนาสนามบิน

โดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบหลัก ที่สำคัญเรื่องหนึ่งคือ Access capacity ที่เกิดได้จากบริเวณภายนอกใกล้เคียงสนามบิน ที่ไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาในการทำแผนแม่บท และถูกกำกับจากรัฐ ตามข้อกำหนด

​ประธานสหภาพแรงงาน ทอท.กล่าวด้วยว่า การก่อสร้างห้างเซ็นทรัล วิลเลจ อาจส่งผลกระทบต่อสนามบินของ ทอท. อันเกิดจากกิจกรรมภายนอกสนามบินแต่ใกล้เคียงสนามบินที่อยู่นอกเหนือภายใต้การกำกับของ ทอท. จึงขอเสนอให้มีการประชุมหารือในระดับนโยบายสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยเร่งด่วน เพราะหาก ไม่ดำเนินการใดๆ อาจเข้าข่ายว่า ทอท.ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ราชพัสดุบริเวณดังกล่าว ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และอาจส่งผล ให้ประเทศไทยติดธงแดงอีกครั้ง แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าการก่อสร้างห้างเซ็นทรัล วิลเลจ มีการกระทำที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ผังเมืองหลายประการ อาทิ การถมลำรางสาธารณะ การปลูกสร้างอาคารในพื้นที่ สีเขียวที่มีพื้นที่ใช้สอยมากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

โดย พ.ร.บ.ผังเมืองกำหนดให้อาคารมีพื้นที่ใช้สอยได้ไม่เกิน 2000 ตารางเมตร และหากเป็นพื้นที่ตาบอดดังเช่นกรณีนี้ จะปลูกสร้างได้เพียง 200 ตารางเมตร ต่อ 1 ใบอนุญาต อย่างไรก็ตามพื้นที่ใช้สอยสูงสุดของข้อกฎหมายกำหนดไว้ว่าสิ่งปลูกสร้างรวมแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่

ซึ่งในกรณีนี้มีพื้นที่ รวมประมาณ 100 ไร่ แต่จากการแถลงข่าวของเซ็นทรัล ทราบว่าห้างเซ็นทรัล วิลเลจ จะมีพื้นที่ใช้สอยราว 4 หมื่น ตารางเมตร คิดเป็น 25 ไร่หรือร้อยละ 25 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเกินเพดานกฎหมายที่กำหนดไว้

นอกจากนี้พื้่นที่ สีเขียวแปลงดังกล่าวยังอยู่ในข้อบังคับที่ห้ามให้มีการก่อสร้างโรงแรม และยังมีการผิดดำเนินการที่เข้าข่ายผิดกฎ ICAO อีกหลายประการตามที่ได้กล่าวข้างต้น จึงขอเรียกร้องให้เซ็นทรัลชี้แจงประเด็นเหล่านี้ให้ชัดเจน

เพราะ ทอท.ไม่สามารถ เป็นผู้สนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองได้ ทั้งนี้สหภาพแรงงาน ทอท.กำหนดให้มีการประชุมวาระพิเศษเร่งด่วนเกี่ยวกับประเด็นนี้ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะนำคณะกรรมการลงตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างต่อไป