กทม. เคลียร์ซากรถยนต์ทั่วกรุง 400 คันกีดขวางจราจรฝ่าฝืนปรับ 5 พันบาท

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้ติดตามการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ ในพื้นที่เขตสวนหลวง ถือเป็นการดีเดย์ในการลงพื้นที่เพื่อติดตามเรื่องการยกซากรถยนต์ในกทม.ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เข้มงวดปัญหาการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก 

“มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่หลายหน่วยงาน อาทิ กทม. ตำรวจนครบาล อาศัยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ในการเข้ามาจัดการดูแล”

สำหรับกมม.ได้สั่งการให้เทศกิจทุกสำนักงานเขตดำเนินการสำรวจปัญหาในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งมาว่ามีประมาณ 400 คัน และอาจมีมากกว่านี้ จึงได้กำชับให้เทศกิจดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม นอกจากนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต ซึ่งหากมีการจับปรับเกิดขึ้น ประชาชนผู้แจ้งจะได้ส่วนแบ่งค่าปรับดังกล่าว เหมือนกับการแจ้งเบาะแสการขับขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นบนทางเท้า 

ทั้งนี้ ตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากรถยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กทม.จะนำไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ โดยเขตสวนหลวงได้กำหนดสถานที่จัดเก็บซากรถยนต์บริเวณใต้ทางด่วนศรีรัช ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อในอนาคตจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าว

สำหรับอัตราการเปรียบเทียบปรับ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ และบทกำหนดโทษ มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่จะต้องมีการหารือกับเจ้าหน้าที่เทศกิจว่าจะกำหนดอัตราเปรียบเทียบปรับเท่าไร โดยอาจจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท 2,000 บาท 3,000 บาท หรือ 5,000 บาท จะต้องมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง 

ทั้งนี้ ภารกิจการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์จะเป็นภารกิจที่จะดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะซากรถยนต์ต่าง ๆ ก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจร และปัญหาด้านความปลอดภัย รถยนต์บางคันจอดนานจนต้นไม้ขึ้น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หรืออาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย เกิดการก่อวินาศกรรม ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ทยอยจัดเก็บซากรถยนต์ไปแล้วประมาณ 70 คัน และจะพยายามเร่งจัดเก็บให้ครบ 400 คัน 

นอกจากนี้ กทม.ยังต้องมีการหารือกับตำรวจนครบาล ตำรวจจราจร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกกฎหมายเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บค่าจอดรถในที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่องมือบังคับไม่ให้เคลื่อนย้ายรถ ค่าเคลื่อนย้ายรถ และค่าดูแลรักษารถในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงการแบ่งพื้นที่ในการควบคุมดูแลและการจัดเก็บค่าปรับ โดยในอนาคตสำนักเทศกิจจะเป็นหน่วยงานหลักในการหาพื้นที่กลางสำหรับจัดเก็บซากรถยนต์