หยกอินเตอร์เทรด’ ผู้นำเทรนด์เบเกอรีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

หยกอินเตอร์เทรด’ ผู้นำเทรนด์เบเกอรีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

27หยกอินเตอร์เทรด’ ผู้นำเทรนด์เบเกอรีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ครบเครื่องเรื่องเบเกอรี ด้วยประสบการณ์กว่า 43 ปี มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า

หากเปรียบอาหารเป็นแฟชั่น อาจมองภาพวัฒนธรรมอาหารในมุมที่ต่างออกไป เช่น การกินขนมปัง เค้ก พาย คุกกี้ เครป ครัวซองต์ วาฟเฟิล  หรือเบเกอรี ต่าง ๆ เป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ผู้คนไม่ต้องกินเพื่อให้อิ่มท้องเพียงอย่างเดียว แต่การกินยังสะท้อนรสนิยม ภาพลักษณ์ในสังคม สภาพแวดล้อม สุขภาพ การรักษา หรือการลิ้มรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภค หากผู้ประกอบการหรือซัพพลายเชนด้านอาหารสามารถวิเคราะห์ คาดการณ์ หรือสร้างการรับรู้ให้เกิดเป็นกระแสใหม่ในสังคม เกิดเป็นเทรนด์ หรือชี้นำตลาดได้ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้ด้วยเช่นกัน

บริษัท หยกอินเตอร์เทรด (เชียงใหม่) จำกัด ก่อตั้งโดย คุณเลิศลักษณ์ วณิชวิกรานต์ ในปี 2523 เริ่มต้นธุรกิจจัดจำหน่ายวัตถุดิบ อุปกรณ์ บรรจุภัณฑ์ เครื่องจักรที่เกี่ยวกับเบเกอรี ร้านกาแฟ และร้าน Café แบบครบวงจรภายใต้แบรนด์  ‘หยก’ (YOK) ให้บริการครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการ ผู้กำลังมองหาอาชีพเสริม และกลุ่มแม่บ้าน มีช่องทางขายปลีกและขายส่ง หากพิจารณาในภาพรวม ‘หยกอินเตอร์เทรด’ จัดอยู่ในประเภทธุรกิจร้านค้าส่ง หรือซัพพลายเชน ที่มีประสบการณ์กว่า 43 ปีและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของเบเกอรี

จุดเด่นของหยก คือ ประสบการณ์เชิงลึกด้านธุรกิจเบเกอรีที่ยาวนาน มุ่งเน้นพัฒนาองค์กรและการบริการ มีสินค้าที่ครบครัน ทั้งวัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องมือ และช่องทางจำหน่าย มีแพลตฟอร์มทั้งในรูปแบบการตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ และช่องทางอีคอมเมิร์ซของหยกเองด้วย ทำให้ธุรกิจมีความพร้อมในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ

Advertisment

การวิเคราะห์เทรนด์สินค้าใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลาถือเป็นเคล็ดลับสำคัญของธุรกิจ ซึ่งต้องยึดหลักผสมผสาน คือต้องมอง Pain point ของลูกค้าหรือตลาดให้ออก รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรม หรือกรรมวิธีใหม่ ๆ ในการนำวัตถุดิบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถลดขั้นตอน เวลา หรือ กระบวนการที่เกิดเป็นต้นทุนการผลิตให้ลูกค้าได้ ควบคู่ไปกับการสำรวจความต้องการของตลาดเบเกอรีในแต่ละช่วง ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการขายสินค้าหรือวัตถุดิบก่อนรายอื่น ๆ รวมถึงสามารถนำสิ่งใหม่เข้ามาทดแทน หรือแนะนำลูกค้าได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ ความเร็วจึงทำให้ยอดขายเติบโตในช่วงที่ตลาดมีความต้องการสูงสุด จึงเป็นโจทย์ที่ธุรกิจจะต้องวิเคราะห์ตลาดอยู่เสมอ

ข้อได้เปรียบทางธุรกิจ คือ ความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการด้านเบเกอรี ร้านคาเฟ่ และร้านอาหาร โดยประมาณ 80% เป็นกลุ่มผู้ประกอบการตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลาง ไปถึงธุรกิจรายใหญ่ ส่วนอีก 20% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจในด้านเบเกอรี และผู้ที่กำลังมองหาอาชีพเสริม ดังนั้น การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ จึงมุ่งเน้นให้ความรู้ และการส่งเสริมลูกค้าให้ไปประกอบอาชีพ

ศูนย์เรียนรู้หยกฯ คอร์สเรียน และหลักสูตร (YOK Academy) โดยมีห้องสัมมนาที่สามารถรองรับผู้เรียนได้ถึง 80 รายต่อครั้ง พื้นที่สามารถจัดทำเวิร์คช้อปหรือสเตชั่นให้ข้อมูลและสาธิตแนะนำได้ถึง 12 สเตชั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ที่มีศักยภาพเปิดเป็นคอร์สเรียนให้แก่ลูกค้า และผู้สนใจ ตั้งแต่ความรู้ระดับเบื้องต้น อาทิ การเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่ ร้านเบเกอรี ตลอดจนการพัฒนาสินค้าทั้งในส่วนรสชาติ กรรมวิธี และการลดต้นทุนการผลิต ทั้งในแง่ของวัตถุดิบและวิธีการนำมาใช้ โดยนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาแนะนำเพื่อเติมเต็มให้ลูกค้า

Advertisment

การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดกับซัพพลายเออร์ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนได้สอดคล้องต่อพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้ลูกค้านำความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดให้เกิดความแตกต่างจากสินค้าในตลาดทั่วไป ทั้งนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่ทำให้การผลิตสินค้าง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น หรือสามารถลดต้นทุนการผลิต และแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น ในยุคที่ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

หยกอินเตอร์เทรด สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และปรับตัวเพื่อตามเทรนด์สมัยใหม่ได้อย่างทันท่วงที หรือบางขณะยังเป็นผู้จุดกระแสเทรนด์ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ไม่เพียงเน้นการบริการและพัฒนาศักยภาพลูกค้าเก่า แต่ยังเพิ่มโอกาสในการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ให้กลายเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจเบเกอรีได้อีกด้วย เป็นการตลาดที่สร้างแบรนด์หยกให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค (Brand Awareness) และเกิดเป็นการตลาดในลักษณะบอกต่อ หรือปากต่อปาก ด้วยการนำข้อมูลที่ได้ถ่ายทอดไปพัฒนาต่อจนเกิดสิ่งใหม่ ๆ ในสังคม และที่สุดแล้วหยกอินเตอร์เทรดในฐานะผู้ขายวัตถุดิบเบเกอรีครบวงจร ย่อมต้องได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้

หยกอินเตอร์เทรด กำหนดกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรไว้ 2 ส่วน คือ ระยะสั้น และระยะยาว โดยแผนระยะสั้น จะเป็นบทเรียนต่าง ๆ ที่สอนให้เรียนรู้มาตลอด เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนปัจจัยต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้นในแผนระยะสั้น จึงต้องมีการประเมินถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ส่วนแผนระยะยาวมีเป้าหมายที่จะสร้างองค์กรให้มีความแข็งแรง ดังนั้นในด้านของการพัฒนาองค์กรต้องเข้มข้นมากขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาการบริการ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

กรณีศึกษาการแก้ปัญหาในช่วงวิกฤตโควิด-19 นั้น การปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ในช่วงที่ประสบปัญหา หรือประสบวิกฤตต่าง ๆ ทำให้ต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ โดยนำสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตไปทดแทน ช่วยให้บริษัทสามารถพลิกสถานการณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้นได้ และเป็นโอกาสที่บริษัทสามารถเพิ่มสินค้าให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น  เพิ่มช่องทางแพลตฟอร์มขายออนไลน์ ที่นำไปสู่การพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซของบริษัทเองควบคู่ไปด้วยเพื่อตอบโจทย์ตลาดได้มากขึ้น สามารถต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงปัจจุบัน

กลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด จากประสบการณ์ในการปรับตัวช่วงที่ผ่านมา การทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ จึงพยายามใช้ Data ที่มีการเก็บข้อมูลไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด ทั้งมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าและสามารถแยกประเภทของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ โดยมีการจัดทำเป็นสมาชิกของหยกอินเตอร์เทรดที่มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าราย (ไม่นับรวมทั้งลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้เป็นสมาชิก) ด้วยเหตุนี้ ในการอบรบหรือจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ลูกค้า ไม่เพียงเป็นการสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นโดยให้ลูกค้านำความรู้ที่ถ่ายทอดให้ไปพัฒนา หรือต่อยอดและจำหน่ายแก่ลูกค้า ทั้งข้อมูลสมาชิกที่มีอยู่จะช่วยให้สามารถแบ่งกลุ่มและแยกประเภทลูกค้าสำหรับวางกลยุทธ์การตลาด

เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว  บริษัทมีทีมคัดกรองในทุกขั้นตอนโดยเฉพาะ ดังนั้น เวลาที่ซัพพลายเออร์นำสินค้ามาเสนอขาย จะมีการประชุมกันว่าจะอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทไหน ช่องทางจำหน่ายและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร กิจกรรมส่งเสริมการขาย การแนะนำสินค้าใหม่ เพื่อการจัดหาวัตถุดิบให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และควบคุมปริมาณและราคาให้เหมาะสม หรือป้องกันสินค้าล้นตลาดอันจะนำไปสู่ราคาที่ลดลง การทำงานที่ผ่านมาจึงมีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเสมอ และพยายามจะให้ข้อมูลในด้านการคัดเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับเทรนด์แต่ละช่วง ขณะเดียวกันก็ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและผู้บริโภค ไม่มุ่งลดต้นทุนหรือการกระทำที่การก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้า เพราะมองว่าคุณภาพและการบริการลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ราคาเหมาะสม

การพัฒนาช่องทางจำหน่ายและจัดส่งให้ครอบคลุม เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ในช่องทางออนไลน์ รวมทั้งช่องทางเดลิเวอรี่ของบริษัทที่เติบโตขึ้น จึงปรับวิธีการจัดส่งโดยใช้พาร์ทเนอร์จากภายนอก มาช่วยงานจัดส่งและกระจายสินค้า ให้ครอบคลุมทันต่อความต้องการของลูกค้า

คุณเลิศลักษณ์ วิเคราะห์เทรนด์ของธุรกิจว่า อาหารเป็นเทรนด์ที่หมุนเปลี่ยนเป็น Cycle อยู่เสมอ จากประสบการณ์ เห็นว่า วงจรการปรับเปลี่ยนในธุรกิจที่เป็นอาหารและขนมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนเร็ว และสั้นลงเรื่อย ๆ หรืออาจกล่าวได้ว่าเทรนด์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นและหายไปเร็วมาก แต่ก็มีโอกาสวนกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งได้เช่นกัน ดังนั้น การคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น และการปรับตัวตามทิศทางตลาด จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า และมีการศึกษาหาความรู้ในการลงทุนธุรกิจ หรือพัฒนาสินค้า การตอบสนองความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ต้องมีการคิดค้น หรือนำกรรมวิธีใหม่ ๆ ในการเลือกใช้วัตถุดิบที่คุ้มค่า เหมาะสม และสะดวกต่อการทำงาน

สิ่งสำคัญต้องมองโจทย์ให้ออกว่าไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมีความต้องการอะไร มีวิถีชีวิตอย่างไร และเมื่อจบแล้วก็ต้องมองหาสิ่งใหม่มาทดแทนเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาในช่วงที่กระแสเริ่มซบเซาลง นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องคิดต่อยอด และเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ตลาดอยู่เสมอ

ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ รวมไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะช่วยให้ข้อคิด แนวคิด และเคล็ดลับ

ในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ที่    www.Bangkokbanksme.com

รู้จัก บริษัท หยกอินเตอร์เทรด (เชียงใหม่) ได้ที่ http://www.yokintertrade.co.th