เปิดตัว U Destiny เอาใจสายมู แพลตฟอร์มแรกของไทยที่ใช้ AI ทำนายดวง

เปิดตัว U Destiny เอาใจสายมู แพลตฟอร์มแรกของไทยที่ใช้ AI ทำนายดวง

บิทคับ มูนช็อต ร่วม อัลติเมท เดสตินี่ เปิดตัว U Destiny เอาใจสายมู แพลตฟอร์มแรกของไทยที่ใช้ AI ทำนายดวง

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 บริษัท บิทคับ มูนช็อต จำกัด ร่วมกับบริษัท อัลติเมท เดสตินี่ จำกัด (ULTIMATE DESTINY) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “แพลตฟอร์ม U Destiny” แพลตฟอร์มแรกที่ให้บริการดูดวงแบบ AI Astrology ที่จะพาทุกคนค้นหาคาแรกเตอร์ของตัวเองผ่านการใช้วันเกิดและศาสตร์การอ่านใบหน้า ศาสตร์ฤกษ์งามยามดี พร้อมนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ประมวลผลเพื่อให้ได้ผลการทำนายที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว โดยมี นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, นายธนัท เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม บริษัท บิทคับ มูนช็อต จำกัด ร่วมกับ นางสาวอันธิกา ลิมปิอนันต์ชัย (ซินแสมาสเตอร์อลิซ) และนายเชาวนนท์ คลังเปรมจิตต์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติเมทเดสตินี่ จำกัด ร่วมเปิดตัว ณ สยามพารากอน กรุงเทพฯ

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เปิดเผยว่า “แพลตฟอร์ม U Destiny เป็น Use case แรก ๆ ที่นำศาสตร์การทำนายดวงชะตากับเทคโนโลยี AI เข้ามาผสมผสานกัน จนออกมาเป็นแอปพลิเคชันดูดวงที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และเท่าเทียมกันมากขึ้น เนื่องจากคนไทยกับมูเตลูเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมานาน อย่างบิทคับ กรุ๊ปที่แม้จะเป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติไทย แต่ก็เอาความเชื่อในสายมูเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบริษัทให้มีการเติบโตและประสบความสำเร็จเช่นกัน ส่วนทิศทางของเทคโนโลยี AI นั้น ในปี 2566 ถูกเรียกว่าเป็นปีแห่งการทดลองเล่น ซึ่งคนในวงทั่วไปก็จะได้รู้จัก ChatGPT กันมากขึ้น แต่ปี 2567 จะเป็นปีแห่งการใช้งานจริง เราจะได้เห็น AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นผ่านแอปพลิเคชันพื้นฐานต่าง ๆ เช่น Line, Microsoft apps, Evernote ฯลฯ โดยจะมี AI Function เป็นทางเลือกให้ได้รับการบริการที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย แต่แลกกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งตนเชื่อว่า ปีนี้คนไทยจะได้เห็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้แก้ไขหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตมากขึ้น”

Advertisment

นายเชาวนนท์ คลังเปรม กล่าวเสริม “ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ U Destiny คือ โหวงเฮ้ง AI ที่นำเทคโนโลยี AI นำมาใช้ในการสแกนเพื่อวิเคราะห์ใบหน้าแบบเรียลไทม์ โดยไม่มีการเก็บข้อมูลของลูกค้า ที่สามารถผสานรวมการวิเคราะห์ทุกศาสตร์ไว้ที่เดียวไม่ว่าจะเป็น การทำนายวาสนา ดวงชะตาด้านการเงิน การงาน และความรัก มาพร้อมกับอีกฟีเจอร์ยอดนิยมของสายมู คือ ฟีเจอร์ Daily Mood ที่สามารถวิเคราะห์ดวงประจำวันได้ครบ 365 วัน”