บี.กริม หนุนอาชีวะ-มูลนิธิคีนัน เดินหน้าโครงการเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เตรียมความพร้อมนักเรียน มีทักษะด้าน STEM
วันที่ 7 กันยายน 2566 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนายปิยบุตร ชลวิจารณ์ รองประธานกรรมการและประธานอำนวยการมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) แสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
โดยมีพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยฝึกอบรมวิชาชีพในประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ประกอบด้วย บริษัท บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิแคทเทอร์พิลลาร์ มูลนิธิซิตี้ และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จํากัด และวิทยาลัยอาชีวศึกษาภายใต้โครงการความร่วมมือ เข้าร่วมงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอาชีวศึกษาของประเทศไทย โดยการสร้างแรงงานที่พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อการสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวทันความต้องการของอุตสาหกรรมสมัยใหม่
นายเกรียงไกร อยู่ยืน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บี.กริม เพาเวอร์ ได้ให้การสนับสนุนโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ โดยร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ริเริ่มโครงการสอนทางเทคนิคและการเรียนรู้สำหรับช่างเทคนิคอุตสาหกรรม 4.0 หรือ SKILLS4TECH (กันยายน 2566 – สิงหาคม 2567)
โดยร่วมมือกับโรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ มุ่งส่งเสริมแนวทางการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้กับครูผู้สอน พร้อมกับการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์จำลองเกี่ยวกับ STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์) ซึ่งเป็นชุดทักษะของอนาคต โดยเน้นการผสมผสานเทคโนโลยี การเรียนแบบผสมผสาน (blended learning) และการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้าน STEM และทักษะของศตวรรษที่ 21 ในห้องเรียน
“โครงการนี้มุ่งเสริมสร้างมาตรฐานอาชีวศึกษาทวิภาคี พัฒนาการดำเนินการสอนสำหรับอาจารย์ผู้สอน เตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะ STEM รวมทั้งเสริมสร้างความสามารถในการสอนของครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ในการสร้างทักษะ STEM และทักษะในศตวรรษที่ 21”
นายเกรียงไกรกล่าวต่อว่า กลยุทธ์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กร มุ่งเพิ่มขีดความสามารถให้กับโลกด้วยความโอบอ้อมอารี ประกอบด้วยทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการสร้างมูลค่าและรากฐานที่มุ่งเน้นความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง
โดยการส่งมอบการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวและผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าอย่างยุติธรรมและเสมอภาค ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ส่งเสริมผู้คน ชุมชน และสังคมด้วยความโอบอ้อมอารี
ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการดำเนินการของ บี.กริม เพาเวอร์ พร้อมตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็วและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
สำหรับโครงการของพันธมิตรรายอื่น ๆ ประกอบด้วย
- โครงการ Closing the Technician Skills Gap โดยมูลนิธิแคทเทอร์พิลลาร์ (มกราคม 2566-ธันวาคม 2568) มุ่งหวังที่จะส่งเสริมทั้งครูและนักเรียนสายช่างเทคนิค ผ่านการเพิ่มพูนทักษะ การขยายขอบเขตความรู้และการตระหนักในระบบการควบคุมอุตสาหกรรม (Mechatronics)
- โครงการ Citi Youth Employability Skills and Pathways โดยมูลนิธิซิตี้ (พฤศจิกายน 2565-ตุลาคม 2566) มุ่งเน้นเสริมสร้างโอกาสของนักเรียนที่จะสำเร็จการศึกษาในระดับวิชาชีพและผู้ที่มีสภาพเศรษฐกิจที่จำกัด
- โครงการ Learning for Life Enhancement โดยดิอาจิโอ (กันยายน 2566-สิงหาคม 2567) มุ่งเพิ่มทักษะของนักเรียนและบุคคลที่ว่างงาน รวมถึงผู้หญิงที่ขาดโอกาส ผู้ซึ่งต้องการเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาคการท่องเที่ยวและบริการทั่วไปในประเทศไทย
- โครงการ Women in STEM โดย เจ.พี. มอร์แกน (สิงหาคม 2565-สิงหาคม 2567) มุ่งเน้นการเสริมทักษะทางวิชาชีพ การเตรียมความพร้อมในการทำงาน และทักษะชีวิตของนักศึกษาหญิงสายช่างเทคนิค ผ่านกระบวนการฝึกงาน การฝึกอบรม และการให้คำปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาหญิงสำหรับอาชีพด้าน STEM
อย่างไรก็ตาม โครงการความร่วมมือทั้งหมดนี้ และวิสัยทัศน์ร่วมกันของคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ร่วมกับพันธมิตรหลัก จะทำให้ภูมิภาพอาชีวศึกษาในประเทศไทยเดินหน้าไปสู่ความก้าวหน้าที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และความมุ่งหวังที่จะสร้างแรงงานที่มีความสามารถ ครบถ้วน และสามารถปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความท้าทาย รวมถึงความต้องการของอุตสาหกรรมสมัยใหม่