กลยุทธ์ ‘ซีพี-เมจิ’ เพิ่มคุณค่าชีวิตเพื่อความยั่งยืน

สลิลรัตน์ พงษ์พานิช
สลิลรัตน์ พงษ์พานิช

บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เป็นบริษัทผลิตภัณฑ์นมชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้เจตนารมณ์ “เพิ่มคุณค่าชีวิต” หรือ “Enriching Life” มาตลอด 35 ปี พร้อมวางแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำใน 3 มิติหลัก ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ (Business) คือการพัฒนา ส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจ

ทั้งเกษตรกรและลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างรับผิดชอบ, ด้านสังคม (People) ได้แก่ การคิดค้นนวัตกรรมที่มีประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย รวมถึงดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงานและชุมชน, ด้านสิ่งแวดล้อม (Planet) ได้แก่ การจัดการด้านพลังงาน น้ำ ของเสีย และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

“สลิลรัตน์ พงษ์พานิช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ซีพี-เมจิ มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยัง 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยนอกจากประเทศไทยแล้ว ซีพี-เมจิ ยังครองอันดับหนึ่งในตลาดนมพาสเจอไรซ์ในประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง อีกด้วย

“ปี 2566 ซีพี-เมจิ มีมูลค่ายอดขายสุทธิอยู่ที่ประมาณ 12,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ถึงกว่า 12% และตั้งเป้าการเติบโตปี 2567 ประมาณ 5% หรือ 12,700 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตราการบริโภคนมพาสเจอไรซ์ในประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 9.7% ในเชิงปริมาณ และ 11.8% ในเชิงมูลค่า เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2566 ขณะที่อัตราการเติบโตของซีพี-เมจิ อยู่ที่ 17.7% ในเชิงมูลค่า ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาด”

ผลตรงนี้ ไม่เพียงทำให้เติบโตทางด้านยอดขาย ซีพี-เมจิ ยังให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลักเพื่อความยั่งยืน คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเดินตามแผนและเป้าหมาย “เพิ่มคุณค่าชีวิต” (CP-Meiji Enriching Life) ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ขององค์กร โดยมีประเด็นสำคัญและเป้าหมายหลัก ๆ ภายในปี 2573 ดังนี้

Advertisment

ด้านเศรษฐกิจ ซีพี-เมจิ ให้ความสำคัญการเติบโตร่วมกับผู้ประกอบการ พันธมิตรธุรกิจ ผู้บริโภค และชุมชน ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยด้านการจัดการน้ำนมดิบ และสวัสดิภาพสัตว์ โดยบริษัทมีเป้าหมาย 100% ของฟาร์มโคนมที่ส่งนมให้ซีพี-เมจิ ต้องผ่านมาตรฐานคุณภาพระดับ Gold Standard ด้วยการจัดการอบรม และให้ความรู้เชิงวิชาการแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม

ผนวกกับการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรุ่นใหม่ รวมทั้งการทำ Roadmap การจัดการฟาร์ม เพื่อให้ได้น้ำนมที่มีคุณภาพ และปริมาณตามมาตรฐาน ภายใต้ MOU กับทีมนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากนั้น ยังมีเป้าหมาย Partner of Choice เพื่อเป็นพันธมิตรอันดับ 1 ในธุรกิจนม ด้วยการจัดตั้งโครงการ CP-Meiji for Barista ในปี 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ยิ่งเฉพาะธุรกิจกาแฟ ด้วยการยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากร หรือบาริสต้า ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

Advertisment

เช่น CP-Meiji Speed Latte Art Championship การแข่งขันกาแฟด้านลวดลายและรสชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, CP-Meiji Barista Camp ค่ายพัฒนาบาริสต้าแบบเข้มข้น โดยกรรมการ และแชมป์โลกทั้งด้านบาริสต้า และด้านลาเต้อาร์ต เพื่อมุ่งสู่การเป็นมืออาชีพระดับสากล รวมไปถึงการสร้าง Team Avenger หรือทีมบาริสต้าตัวแทนประเทศไทยเพื่อลงแข่งและสร้างชื่อเสียงในเวทีแข่งขันระดับนานาชาติ

ขณะที่ด้านสังคม “สลิลรัตน์” กล่าวว่า ซีพี-เมจิ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และปลอดภัย ผู้บริโภค โดยมีเป้าหมาย 70% ของผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน Healthier Choice Certificate และตรวจสอบย้อนกลับได้ 100%

ซีพี-เมจิ มุ่งเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างจับต้องได้ ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยอยู่บนพื้นฐานของการผลิตอย่างรับผิดชอบ ได้มาตรฐานระดับสากล และมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับได้ (ถึงระดับศูนย์รับน้ำนมดิบ)

“เราดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งพนักงาน และชุมชนรอบรั้วโรงงาน สำหรับชุมชนในจังหวัดสระบุรีที่เป็นแหล่งวัตถุดิบนมวัวของบริษัท นอกจากนั้น เรายังมีเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบรั้วโรงงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดตั้งโครงการเพื่อเด็กนักเรียนในพื้นที่สระบุรี มุ่งเน้นการพัฒนา 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านการศึกษา ภายใต้ชื่อ Innovative Education และด้านโภชนาการ ภายใต้ชื่อ Fit to the Height”

สำหรับด้านการศึกษาในชุมชน ซีพี-เมจิ จัดทำศูนย์เรียนรู้ Robotics & Coding พร้อมมอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียน ตลอดจนจัดแคมป์อบรมหุ่นยนต์ให้กับครูและนักเรียน สอดคล้องกับนโยบายด้านการศึกษา 4.0 ของกระทรวงศึกษาธิการ

ด้านโภชนาการ ซีพี-เมจิ ใช้หลัก 3 อ. อาหาร ออกกำลัง และอารมณ์ โดยจัดแผนโภชนาการและการออกกำลังที่เหมาะสม สนับสนุนผลิตภัณฑ์นมหลากหลายเพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และมีการติดตามพัฒนาการ ผ่านการเก็บข้อมูลดัชนีมวลกายของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ความสำคัญกับด้านปัจจัยสี่ ด้วยการสร้างโรงผลิตน้ำดื่มสะอาดได้มาตรฐาน อย. และมอบให้เป็นสาธารณประโยชน์

“สลิลรัตน์” กล่าวต่อว่า ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทตั้งใจคืนลมหายใจให้สิ่งแวดล้อม ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ สร้างจิตสำนึก และการมีส่วนร่วมภายในองค์กร โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30% ลดการใช้น้ำ 25% และลดการเกิดขยะฝังกลบ 25% จากกระบวนการผลิต

“ซีพี-เมจิ ริเริ่มและดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้เป้าหมายของซีพีเอฟ ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ภายในปี 2593 สอดคล้องตามมาตรฐานขององค์กร Science Based Targets Initiatives (SBTi)

นอกจากนั้น เราจะปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบนิเวศด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว 1,000 ไร่ ภายในปี 2573 ทั้งนี้ ซีพี-เมจิ จัดตั้งโครงการซีพี-เมจิ รักษ์ป่า รักษ์น้ำ ภายใต้ MOU กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”

ด้วยการวางแผนปลูกต้นไม้สองแสนต้น ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง เพื่อเน้นการฟื้นฟู และรักษาผืนป่า ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“ปัจจุบันเราปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 52,000 ต้น บนพื้นที่ 260 ไร่ และมีเป้าหมายในการปลูกให้ได้รวม 74,000 ต้น บนพื้นที่ 370 ไร่ ในปี 2567 เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ รักษาสมดุลของระบบนิเวศให้เป็นแหล่งพืชอาหารของสัตว์ป่า และคนในชุมชนโดยรอบแนวเขตพื้นที่ในการช่วยบรรเทา และลดปัญหาฝุ่นละออง ที่สำคัญ เราจัดซื้อจัดหาอย่างรับผิดชอบ โดยเป้าหมาย 100% ของบรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้ (Compostable)”

โดยปี 2566 บริษัทริเริ่มโครงการนำร่อง “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น” เพื่อรณรงค์การแยกขยะพลาสติกประเภทขวดขุ่น โดยให้ผู้บริโภคนำแกลลอนนมที่ใช้แล้วส่งไปยังจุดรับทิ้ง เพื่อรวบรวมและนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล กระทั่งนำมาผลิตเป็นถังขยะ ส่งมอบให้ชุมชนและอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดสระบุรี โดยบริษัทวางแผนต่อยอดโครงการนี้จากกลุ่มผู้บริโภค มาสู่กลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจกาแฟในปี 2567 นี้

นับว่า ซีพี-เมจิ องค์กรหมื่นล้านที่มีกลยุทธ์มุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าชีวิต ผ่านกระบวนการผลิตนมทุกขวดสู่มือผู้บริโภคอย่างแท้จริง