นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า สถาบันปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เตรียมจัดโครงการฝึกอบอบรมผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ 16 อำเภอ 17,760 คน จากเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เพื่อร่วมกันสกัด-ป้องกันปัญหายาเสพติด
นายการัณย์กล่าวว่า โครงการอบรมผู้นำท้องถิ่นเกิดจากความสภาพปัญหาของกลุ่มเยาวชน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ปัญหายาเสพติดที่รุนแรง สถาบันเห็นว่าเป็นปัญหาเร่งด่วน จึงจับมือนักปกครองท้องถิ่น ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทย และมูลนิธิมแม่ฟ้าหลวง คาดว่านักพัฒนาท้องถิ่นจะเป็นแนวร่วมที่สำคัญในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
ผู้อำนวยการสถาบันปิดทองหลังพระฯ กล่าวด้วยว่า วัตถุประสงค์ของโครงการฝึกอบรมนักปกครองท้องถิ่นกว่า 2 หมื่นคนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายผลความรู้จากการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริเพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“เรามีตัวอย่างที่โครงการพัฒนาดอยตุงที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทำให้เกิดภูมิคุ้มกันยาเสพติด จึงเป็นอีกทางหนึ่งของการสืบสานแนวพระราชดำริที่ปิดทองหลังพระฯ เข้ามามีส่วนร่วมในด้านการส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ โดยมีมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯนำประสบการณ์มาเป็นผู้ถ่ายทอดหลัก” นายการัณย์กล่าว
ทั้งนี้ โครงการฝึกอบรมดังกล่าว จะดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ใช้งบประมาณ 53 ล้านบาท และมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายองค์กรท้องถิ่นตามแนวชายแดนทั้งที่เป็นทางผ่านยาเสพติด และที่มีผู้เสพติดเพิ่มมาก ได้แก่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่และเชียงรายที่จะมีผู้ร่วมอบรมรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 17,760 คน
ในช่วงการอบรม ผู้นำท้องถิ่นจะได้รับรู้และศึกษาจากประสบการณ์การพัฒนาจริง ทั้งในด้านการวางแผนชุมชน การกระตุ้นการมีส่วนร่วม การพัฒนาเศรษฐกิจฯ เพื่อนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนตามความเหมาะสมโดยจะมีศูนย์การอบรมที่ศูนย์ปฏิบัติการร้อยใจรักษ์ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
โดยกลุ่มเป้าหมายในการร่วมแก้ปัญหา ส่วนหนึ่งมาจากรายงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่พบว่าร้อยละ 76.1 ของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นแรงงาน เกษตรกรและผู้ว่างงาน โดยร้อยละ 40 เป็นผู้มีอายุระหว่าง 15-24 ปี
ข้อมูลผู้ติดยาเสพติดในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน มีสัดส่วนสูงสุดในกลุ่มอายุเกิน 39 ปี ตามด้วยผู้มีอายุระหว่าง 20-24 ปี และมีแนวโน้มที่ผู้เสพยาเสพติดอายุน้อยจะมีเพิ่มขึ้น
