เศรษฐา ทวีสิน ฝากเป็นข้อคิด ศึกร้านกาแฟ จี้เปิดโอกาสให้รายย่อย

จากข่าว “ร้านกาแฟ 3 หมื่นล้านร้อนฉ่า ค่ายใหญ่เปิดศึกแย่งทำเลทอง” นำเสนอโดย ประชาชาติธุรกิจ กำลังเป็นประเด็นว่าเรื่องธุรกิจใหญ่ควรเปิดทางให้ธุรกิจรายย่อยแจ้งเกิดหรือไม่

วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข่าวของประชาชาติธุรกิจ เรื่อง “ร้านกาแฟ 3 หมื่นล้านร้อนฉ่า ค่ายใหญ่เปิดศึกแย่งทำเลทอง” ไม่เพียงได้รับความสนใจ มีผู้เข้าอ่านสูงสุดประจำวันที่ 3 ต.ค. 2565  ด้วยเนื้อหาวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการปรับขึ้นราคากาแฟ พร้อมกับการจับกระแสตลาดที่ยังเติบโต ด้วยมูลค่ารวมของตลาด 3 หมื่นล้านบาท

โดยพบว่า ตอนนี้ธุรกิจค่ายใหญ่ทุกค่ายเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง และมีการแข่งขันเพื่อแย่งพื้นที่หรือทำเลดี ๆ เพื่อเปิดสาขาสูงมาก โดยเฉพาะอาคารสำนักงาน โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลรัฐ มหาวิทยาลัย ฯลฯ ที่ค่ายใหญ่ทุ่มเม็ดเงินไม่อั้นเพื่อให้ชนะการประมูล ชนะคู่แข่ง

ข่าวดังกล่าวยังทำให้นักธุรกิจดังอย่าง เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) รีทวีตและแสดงความเห็นเพิ่มเติม

“จริง ๆ แล้วส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง OR หรือ BCP มาทำร้านกาแฟแข่งขันกับรายย่อย สถานภาพการเงินแข็งแกร่งขนาดนั้น น่าจะหาช่องทางลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าทั้งในและต่างประเทศ แล้วเปิดโอกาสให้รายย่อยได้แจ้งเกิดในอาชีพอิสระบ้าง ฝากไว้เป็นข้อคิดครับ”

จากนั้น บอสใหญ่แสนสิริโพสต์แสดงความเห็นเพิ่มเติมอีกครั้งว่า เป็นภาพ โออาร์ เท่ากับ โอกาส พร้อมตั้งคำถามว่า “โอกาสของใคร? ถ้าโออาร์เท่ากับโอกาส ต้องสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มีโอกาสเข้าไปเปิดร้านในปั๊ม ปตท. ตอนนี้ไม่แน่ใจครับ ว่าโอกาสที่พูดถึงอยู่ เป็นของใครกันแน่”

โพสต์ดังกล่าวทำให้มีผู้รีทวีตอีกจำนวนมาก พร้อมกับแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

สำหรับความเห็นกระตุ้นให้ธุรกิจทุนใหญ่สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยดังกล่าว คล้ายกับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่กล่าวเปิดตัวในฐานะประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อกลางเดือนกันยายนว่า “ปตท.โออาร์ หน้าที่คุณคือจัดสินค้า ให้สินค้าชุมชนมาแสดง ปั๊มที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีสินค้าชุมชนเด่น ๆ ตำบลละแห่งสองแห่ง ตอนแรกก็ฟิตปั๋ง ตอนนี้เงียบกริบเลย แล้วจะไปทวง”