แอกเนส ชาน อดีตนักร้องสาวชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุค 1970s ได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อเปิดตัวหนังสือสองเล่มของเธอที่ออกกับสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น คือ “ชีวประวัติแอกเนส ชาน” และ “50 วิธีสอนลูกทั้งสามเข้าเรียนสแตนฟอร์ด” กับอีกกิจกรรมหนึ่งที่เธอมาครั้งนี้ คือ เธอเข้าร่วมงานมี้ตแอนด์กรี๊ด พบปะแฟนเพลง ณ มติชนอคาเดมี
อดีตไอดอลสาวจากเกาะฮ่องกงผู้นี้มีชีวิตที่น่าสนใจหลายด้าน ซึ่งเธอได้แชร์เรื่องราวต่าง ๆ ไว้ในหนังสือสองเล่มนี้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
แอกเนส ชาน เกิดในครอบครัวชาวจีนฮ่องกง ชื่อจริงของเธอ คือ “เฉิน เหม่ยหลิง”เมื่อโตเป็นวัยรุ่น เธอไปทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กพิการ และออกไปร้องเพลงหาเงินบริจาคเข้าบ้านสงเคราะห์ จนมีค่ายเพลงสนใจเสียงอันทรงเสน่ห์ของเธอ
หลังจากนั้น เธอกลายเป็นนักร้องดัง เป็นไอดอลของเกาะฮ่องกง แล้วได้ไปทำงานเพลงที่ญี่ปุ่น ไม่นาน Agnes Chan ชื่อภาษาอังกฤษของเธอก็เป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่น และกลายเป็นไอดอลที่วัยรุ่นทั่วเอเชียยึดเป็นต้นแบบ แต่ความโด่งดังมาพร้อมกับการถูกรุกรานความเป็นส่วนตัว เธอจึงไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดา
หลังจบการศึกษา เธอกลับมาทำงานเพลง และครั้งนี้เธอมุ่งมั่นจะใช้เสียงเพลงสร้างสันติภาพ เธอเดินทางไปยังประเทศเอธิโอเปีย ซีเรีย ซูดาน ไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนท่ามกลางภัยสงคราม และผลักดันให้เกิดการระดมทุนช่วยเหลือ และยังช่วยเหลือเด็กที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ทั่วโลก ช่วยผลักดันกฎหมายห้ามการค้าประเวณี และสื่อลามกอนาจารในประเทศญี่ปุ่น
ด้านชีวิตครอบครัว เธอแต่งงานกับ ชิการะ คาเนโกะโปรดิวเซอร์ของเธอ แล้วร่วมกันตั้งบริษัท และเมื่อคลอดลูกชายคนแรก เธอพาลูกไปที่บริษัทด้วย ทำให้สังคมญี่ปุ่นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการกระทำนั้นเป็นการท้าทายประเพณีญี่ปุ่นที่ว่า คนเป็นแม่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านเท่านั้น ไม่ควรออกมาทำงาน
แอกเนส ชาน ยืนกรานจะทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย จนทำให้เกิดข้อถกเถียงที่เรียกว่า “ข้อวิพากษ์เหม่ยหลิง (Agnes Controversy)” ภายหลังสังคมญี่ปุ่นได้ผ่อนปรนเปิดโอกาสให้คนเป็นแม่สามารถเลี้ยงลูกและทำงานไปด้วยได้ ผลพวงของ
ข้อวิพากษ์นี้ทำให้เธอได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา เพื่อให้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น หลังเรียนจบ เธอทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ได้รับเชิญเป็นวิทยากรด้านการศึกษา หากสังคมญี่ปุ่นมีคำถามด้านการศึกษา สื่อมักเชิญเธอไปให้ความเห็นเสมอ
แอกเนสเชื่อและยึดมั่นในคำที่พ่อสอนเสมอว่า “ความรู้ที่อยู่ในสมองจะไม่มีใครเอาไปได้ เป็นสมบัติติดตัวชั่วชีวิต เพราะฉะนั้น จงตั้งใจเรียนในขณะที่ยังได้เรียน” และเธอได้ถ่ายทอดสมบัติชิ้นนี้ส่งต่อให้ลูกชายทั้งสามคน ในที่สุดลูกชายทั้งสามก็ประสบความสำเร็จ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดทั้งสามคน
เคล็ดลับการเลี้ยงลูกฉบับแอกเนส ชาน เธอมองว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุดไม่ใช่การท่องจำ แต่คือการสอนให้เด็ก ๆ
มีความอยากรู้อยากเห็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพัฒนาคือช่วงแรกเกิดถึง 8 ขวบ ต้องทำให้สมองของลูกพัฒนาให้ได้มากที่สุด โดยทำอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน เช่น การพาลูกไปสวนสาธารณะ บางวันเดิน บางวันนั่งรถเมล์ บางวันไปตอนเช้า หรือไปตอนสาย ซึ่งสำหรับเด็ก ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องราวแปลกใหม่เสมอ
นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอแชร์ให้ฟัง แต่ในหนังสือที่เธอเขียน เธอได้แชร์ไว้มากถึง 50 วิธี คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจอยากเรียนรู้จากความสำเร็จของเธอ ลองหาหนังสือมาอ่านกันได้
