เสน่ห์วันวาน เมืองเหนือ…ทริปปิด แคมเปญ Stylecation

เมืองเหนือ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านแคมเปญ “Stylecation ชวนเที่ยวไทย…แบบที่ใช่สไตล์ที่ชอบ” ผ่านกลยุทธ์ Celebrity Marketing โดยมีนักแสดงและตัวแทนของคนรุ่นใหม่ “พีพี-บิวกิ้น” มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจออกเดินทางในสไตล์ของตัวเอง

พร้อมทั้งจัดกิจกรรมออกเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ในแบบ stylecation หลากหลายของเมืองไทยทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อปลุกพลัง soft power

ภายใต้ธีมที่เป็นเอกลักษณ์ 5 สไตล์ 5 ภูมิภาค ประกอบด้วย 1.ภาคเหนือ : เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ : North Nostalgia 2.ภาคกลาง : Trendy C2 ภาคกลาง (Create new Experience และ Charming of Center) 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน -Isan in Love 4.ภาคใต้ : หรอยแรง แหล่งใต้-Savory South และ 5.ภาคตะวันออก : สบ๊าย สบาย ตะวันออก – East at Ease

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมทริปภาคเหนือ ภายใต้โครงการ “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” 3 วัน 2 คืน ย้อนรอยวันวานผ่านวิถีชีวิตของคนเหนือ ที่มีความเรียบง่ายคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเดินทาง ณ จังหวัดน่าน ในช่วง 30 ต.ค.-1 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา

วันแรกเราปักหมุดย้อนรอยวันวานจุดแรกกันที่ “วันศรีมงคล” หรือที่เรียกกันว่า “วัดก๋ง” ตั้งอยู่ อ. ท่าวังผา วัดเก่าแก่ที่มีมีศิลปะล้านนาสวยงาม จากนั้นไปรับประทานอาหารเที่ยงกันที่ “ร้านครัวลินดา”

ต่อด้วยแวะชิมโกโก้เมืองน่านที่ “Cocoa Valley” ร้านโกโก้ คาเฟ่ ที่มีสวนโกโก้เป็นของตัวเองและเป็นศูนย์รับซื้อโกโก้จากชุมชน และชมการดริปกาแฟที่ sakad coffee ชมวิวแบบ 360 องศา บน “ดอยสกาด” อ. ปัว และแวะชมสวนดอกเก๊กฮวยและจิบชาธรรมชาติที่โฮมสเตย์ “บ้านสวนดอกไม้เปียงปุย”

ออกจากดอยสกาดมุ่งหน้ากลับมารับประทานมื้อเย็นที่ “ร้านเฮือนฮอม” ปิดท้ายด้วยการเดินเล่นชมสีสันยามค่ำคืนที่ “ถนนคนเดินเมืองน่าน” และเข้าเช็กอินที่โรงแรม “น่านตรึงใจ”

วันที่ 2 เริ่มต้นทริปด้วยการนั่งรถรางชมเมืองเก่า แวะสัมผัสความงดงามและไหว้พระที่วัดศรีพันต้น วัดที่มีสีทองอร่ามทั้งหลัง, วัดอรัญญาวาส ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแกะสลักสีดำด้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์พญางิ้วดำ, วัดสวนตาล วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองมาร่วม 600 ปี, วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วันเก่าแก่ที่สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย

และวัดภูมินทร์ วัดเก่าแก่มีอายุกว่า 400 ปี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องชาดก ตำนานพื้นบ้านและวิถีชีวิตชาวน่าน และภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” หรือที่รู้จักในชื่อ กระซิบรักบันลือโลก

หลังรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านเฮือนภูคา” ออกเดินทางไปไหว้ “พระธาตุแช่แห้ง” อ.ภูเพียง พระธาตุคู่บ้านคู่เมือง จากนั้นมาแวะถ่ายรูปสวย ๆ กันที่ “อุโมงค์ลีลาวดี” ซึ่งเป็นซุ้มต้นลีลาวดีขนาดใหญ่ ความยาวราว 50 เมตร บริเวณหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

จากนั้นแวะเติมพลังกาเฟอีนกันที่ Erabica Coffee ร้านกาแฟที่ใช้เมล็ดพันธุ์จากในท้องถิ่น และตะลุยชิมขนมหวานขึ้นชื่อของเมืองน่านคือ “บ้านยายภรณ์” ร้านขนมน้องใหม่แต่มีตำนาน และร้าน “ของหวานป้านิ่ม” เจ้าตลาดขนมหวานที่ใครๆต้องไปชิม

และปิดทริปวันที่ 2 กันที่ไปสัมผัสบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่ “วัดพระธาตุเขาน้อย” พร้อมชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง 180 องศาและรับประทานมื้อค่ำที่ “สวนอาหารเรือนแก้ว”

ปิดทริปวันที่ 3 กันที่ “วัดพระเกิด” ไฮไลต์ของที่นี่คือการทำตุง หรือ “ธง” ที่มีขนาดความยาวเท่ากับความสูงของผู้ทำ เพื่อสะเดาะเคราะห์และสืบชะตาตามคติความเชื่อของชาวล้านนาโบราณ ที่ว่าเป็นการสะบัดทุกข์โศก โรคภัย ภยันตรายไปจากตัวเรา

นับเป็นการสัมผัส “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” กันแบบจุใจเลยทีเดียว