สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต แจงกรณีกฎพักร่วมห้องชาวต่างชาติกับคนไทย

โรงแรม
แฟ้มภาพประกอบข่าว

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แจงกรณี นายกสมาคมฯ เผยเงื่อนไขนักท่องเที่ยวจะพักอาศัยร่วมกับคนไทย ต้องจดทะเบียนสมรส เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนะรอความชัดเจนอีกครั้งจากราชกิจจานุเบกษา 

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) หลังมีการรายงานว่า นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยเงื่อนไขการเดินทางเข้า จ.ภูเก็ต ของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า หากต้องการพักอาศัยร่วมกับคนไทย จะต้องเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นเพียงแค่แฟน คู่นอน จะไม่อนุญาตพักร่วมกัน

ล่าสุด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยแท้จริงแล้ว นายภูมิกิตติ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าพักร่วมของชาวไทยกับชาวต่างชาติจะทำได้ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งต้องรอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการให้ข้อมูล ขอเรียนว่าให้รอการประกาศที่ชัดเจนจากราชกิจจานุเบกษาเพื่อเป็นแนวทางต่อไป

Advertisment

เงื่อนไขเปิดรับนักท่องเที่ยว

สำหรับเงื่อนไขหลักเกณฑ์ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ดังนี้

ก่อนเดินทางเข้า

  1. ยื่นเอกสาร-รับใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ
  2. ยืนยันผลการอนุมัติพร้อมเอกสาร COE
  3. ลงทะเบียนผ่าน www.entrythailand.go.th

เมื่อเดินทางมาถึง

  1. ดำเนินการตามข้อกำหนดผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร
  2. ต้องติดตั้งแอป Thailand Plus ร่วมกับระบบสารสนเทศอื่นที่จังหวัดกำหนด และในกรณีเดินทางเข้า จ.ภูเก็ต ต้องติดตั้งแอปหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ)
  3. เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ สนามบิน โรงแรมที่พัก หรือจุดตรวจ
  4. เดินทางเข้าที่พักที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน SHA Plus กรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เข้าที่พักแบบ ALQ
  5. ทราบผลแล้วไม่พบเชื้อ สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ตได้ (กรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า สามารถออกนอกห้องพักและใช้บริการบริเวณที่พัก)
  6. พำนักในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน กรณีอยู่น้อยกว่า 14 คืน ต้องเป็นการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรด้วยเที่ยวบินตรงเท่านั้น กรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า วันที่ 1-3 นักท่องเที่ยวออกนอกห้องพักและใช้บริการในบริเวณที่พักได้ วันที่ 4-7 เดินทางท่องเที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนด วันที่ 8-14 เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน เกาะเต่า โดยไม่ต้องกักตัวแบบมีเงื่อนไข
  7. การตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6-7 และ 12-13 และ 8.ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A เคร่งครัด ก่อนออกเดินทางจากภูเก็ต/พื้นที่ของเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ไปจังหวัดอื่น ๆ ให้แสดงหลักฐานยืนยันว่าได้พำนักในที่พัก SHA Plus/ALQ ตามเวลาที่กำหนด และมีผลตรวจเชื้อโควิด

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติ สำหรับแผน “ชะลอ” หรือ “ยกเลิก” โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” กรณีสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

Advertisment
  1. มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 ราย/สัปดาห์
  2. เกิดลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล
  3. มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้าง หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้
  4. เรื่องความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย กรณีมีผู้ติดเชื้อครองเตียงโรงพยาบาล ตั้งแต่ 80% ของศักยภาพของจังหวัด
  5. มีการพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้าง แบบควบคุมไม่ได้