มะกันถอนตัวอีก 2 ความตกลงระหว่างประเทศ แถมด่าศาลโลกเล่นการเมือง

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ประกาศมาตรการชั่วคราว เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ให้สหรัฐรับรองว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน ซึ่งจะมีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นในเดือนหน้า จะไม่ส่งผลกระทบกับความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมรวมถึงความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน

ทั้งนี้อิหร่านได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลโลกว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาไมตรีปี 2538 ระหว่างสองประเทศ ซึ่งศาลโลกได้รับที่จะพิจารณาคดีโดยจะต้องมีการใช้เวลาหลังจากนี้อีกหลายปีจึงจะมีคำตัดสินออกมา

ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ปฏิเสธที่จะไม่ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่าศาลโลกไม่มีขอบเขตอำนาจในการพิจารณาคดีครอบคลุมการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตร ซึ่งถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางด้านความมั่นคงของสหรัฐ

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์ระบุว่า คำสั่งเรื่องมาตรการชั่วคราวของศาลโลกเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าอิหร่านถูกต้อง ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อประชาชนอิหร่านเป็นเรื่องผิดกฎหมายและโหดร้ายทารุณ

ด้านนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐโจมตีศาลโลกว่าเล่นการเมืองและไร้ประสิทธิภาพ พร้อมทั้งระบุด้วยว่าสหรัฐจะทบทวนและถอนตัวออกจากความตกลงระหว่างประเทศทั้งหมดที่จะทำให้สหรัฐต้องผูกพันกับข้อมติใดๆ ของศาลโลก เพราะสหรัฐจะไม่นิ่งเฉยกับการกล่าวอ้างเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองที่ไร้เหตุผลต่อเรา นอกจากนี้สหรัฐยังจะถอนตัวออกจากข้อตกลงกรุงเวียนนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตปี 2504 ในบางส่วนอีกด้วย

การประกาศถอนตัวออกจากความตกลงระหว่างประเทศที่สำคัญถึง 2 ฉบับของสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่ศาลโลกรับพิจารณาเรื่องที่อิหร่านร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ขณะที่ในส่วนของข้อตกลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตเกี่ยวพันกับการที่ปาเลสไตน์ได้ยื่นร้องเรียนสหรัฐที่ได้ตัดสินใจย้ายสถานทูตไปยังนครเยรูซาเลม

 

ที่มา : มติชนออนไลน์