เจรจา “จีน-สหรัฐ” จบไม่ลง ลุ้นต่อรอบผู้นำ “สี-ทรัมป์”

การเจรจาในประเด็นสงครามการค้ารอบล่าสุดนี้ ระหว่างทีมเจรจาของสหรัฐอเมริกาและจีน ในระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ. 2562 ที่กรุงปักกิ่ง จบลงตรงที่ไม่มีการแถลงการณ์ร่วมกันอย่างเป็นทางการ ขณะที่ผู้แทนเจรจาทั้ง 3 คน ได้แก่ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ, นายโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอแห่งชาติจีน เปิดเผยเพียงว่า ผลการเจรจายังถือว่าเป็นการส่วนตัวไม่สามารถชี้แจงได้ และคาดหวังว่าจะมีการหารือครั้งต่อไประหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้จบการเจรจาในครั้งนี้

ขณะที่ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุข้อความในทวิตเตอร์หลังจากที่เสร็จสิ้นการเจรจาเพียงว่า “นับเป็นการหารือที่มีประสิทธิผลร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ แห่งชาติจีน”

รายงานของ “บลูมเบิร์ก” ระบุว่า การเจรจาในวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่ 2 ตามกำหนดการ ทีมเจรจาจากสหรัฐและจีนยังมีความเห็นในหลาย ๆ เรื่องที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีความคืบหน้าในการหารือเพียง “เล็กน้อย” โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นที่สหรัฐต้องการให้ทางการจีนปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายทางการค้าการลงทุน และโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกรณีของกฎระเบียบในการลงทุนจากต่างประเทศในจีนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งสหรัฐเคยวิจารณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีนพยายามที่จะขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และเทคโนโลยีการผลิต ของบริษัทสหรัฐ

นอกจากนี้ ทางสหรัฐเองยังไม่ยอมผ่อนปรนข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลจีนยุติการอุดหนุนรัฐวิสาหกิจและปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลในภาคเอกชนให้ดีขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวถูกมองว่ามีความอ่อนไหวและเป็นไปได้ว่าจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลของจีนเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ นายเจง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวกับสื่อมวลชนด้วยว่า การเจรจาครั้งนี้จะต้องรอการสรุปจากผู้นำของทั้ง 2 ประเทศอีกครั้งซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 พยายามบรรลุข้อตกลงร่วมกันก่อนถึงวันครบกำหนดเส้นตาย ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ขณะที่ที่ผ่านมารัฐบาลจีนพยายามทำให้สหรัฐพอใจด้วยการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น แต่ข้อเรียกร้องของสหรัฐ โดยเฉพาะความต้องการให้จีนปฏิรูปแนวทางการดำเนินนโยบายทางการค้าและเศรษฐกิจ ถือว่ายังเป็นเรื่องเรียกร้องที่ใหญ่และท้าทายมากสำหรับทางการจีน ซึ่งประเด็นดังกล่าวจีนไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการเจรจาครั้งนี้

กำหนดเส้นตายของสงครามการค้ารอบใหม่ คือ วันที่ 1 มี.ค.นี้ โดยสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่า เตรียมจะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอัตราภาษีเดิมที่ 10% ปรับขึ้นเป็น 25% ทันที หากทีมเจรจาของทั้งสองไม่สามารถตกลงกันได้


อย่างไรก็ตาม เพียง 1 วันก่อนจะเริ่มการเจรจาที่ปักกิ่ง ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า อาจพิจารณาเรื่องการเลื่อนเส้นตายออกไปจากเดิม 60 วัน หากรัฐบาลจีนส่งสัญญาณบวกทำตามข้อเสนอของสหรัฐ หรือแสดงความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน