เกือบ 2 สัปดาห์ข้างหน้าก็จะถึง วันครบกำหนดการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักร ที่มี “อังกฤษ” เป็นหัวหอกในการเจรจา
การเบร็กซิตยังอยู่บนทางแยกที่ไม่แน่นอนมากขึ้นอีก หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 มี.ค. รัฐสภาแห่งอังกฤษมีมติคว่ำแผนเจรจาของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
และล่าสุดบีบีซี รายงานว่า เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) สภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ ลงมติคัดค้านการถอนตัวจากอียูแบบไม่มีข้อตกลง หรือที่เรียกว่า โนดีล ตามที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ เพราะอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจของอังกฤษอย่างเลวร้ายที่สุด
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรี เมย์ เสนอต่อรัฐสภาสำหรับแผนการพิจารณาการเบร็กซิตครั้งที่ 3 ในวันที่ 20 มี.ค. โดยระบุว่า หากการพิจารณาครั้งใหม่ ทางรัฐสภายังยืนยันคัดค้านข้อตกลง ผู้นำหญิงของอังกฤษจะเตรียมเข้าเจรจากับสมาชิกของอียูทั้ง 27 ประเทศ เพื่อร้องขอสำหรับการขยายวันที่จะเบร็กซิตออกไป
ขณะที่ในวันที่ 21-22 มี.ค. เหล่าผู้นำอียูมีกำหนดประชุมร่วมกันประจำปี ณ กรุงบรัสเซลส์ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จำนวนมาก ที่มองว่า หากท้ายที่สุดมีการยื่นขอเพื่อขยายเวลาการออกจากสมาชิกอียู เป็นไปได้ว่า จะมีการกดดันจากหลายๆ ฝ่ายของการเมืองอังกฤษ เพื่อเรียกร้องให้มีการลงประชามติครั้งที่ 2 หรือกดดันให้มีการเลือกตั้งทั่วไป