หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) เปิดไฟเขียวให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ สามารถขยายกำหนดการแยกประเทศออกจากการเป็นสมาชิกของอียู หรือที่คุ้นหูกันว่า “เบร็กซิต” ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. หากแต่มีเงื่อนไขว่าทางรัฐสภาอังกฤษจะต้องมีมติข้อตกลงการเบร็กซิตที่ชัดเจนในกรอบการประชุมในสัปดาห์หน้า ไม่เช่นนั้นหากรัฐสภาอังกฤษมีมติคว่ำแผนเป็นครั้งที่ 3 นั่นหมายความว่า อังกฤษและประเทศสมาชิกอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร (ยูเค) จะต้องออกจากอียูในวันที่ 12 เม.ย.
ขณะที่ “เดอะ โลคอล” ของสเปน รายงานว่า ขณะนี้ชาวอังกฤษมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง เพียง 6 วันก่อนที่จะครบกำหนดการเบร็กซิต ในวันที่ 29 มี.ค. (ตามกำหนดเดิม) โดยชาวอังกฤษและคาดว่าน่าจะเป็นชาวยูเคจากประเทศอื่นๆ ทยอยลงชื่อเพื่อร่วมประท้วงชุมนุมครั้งใหญ่ในพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) โดยคาดว่าขณะนี้มีผู้ลงร่วมลงชื่อแล้วนับแสนคน เห็นได้จากการลงชื่อกว่า 2,000 รายต่อนาทีทางออนไลน์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ การชุมนุมซึ่งถูกคาดการณ์ว่านอกเหนือที่จะจัดขึ้นใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษ ยังจะจัดขึ้นในบริเวณพื้นที่กลางกรุงมาดริดของสเปนอีกด้วย เพื่อกดดันให้สมาชิกรัฐสภาของอังกฤษพิจารณาการยกเลิกแผนออกจากอียู เนื่องจากกระบวนการเบร็กซิตนั้นยืดเยื้อกินเวลานานเกินความคาดหมาย ซึ่งกระทบต่อหลากหลายด้าน โดยเฉพาะในทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน “ซู วิลสัน” นักการเมืองจากสเปน กล่าวว่า จะเดินทางไปร่วมชุมนุมด้วยในวันเสาร์นี้ เพื่อกดดันอังกฤษเปิดทางให้ประชาชนได้ลงประชามติรอบใหม่เกี่ยวกับแผนเบร็กซิต โดยกล่าวว่า ขณะนี้เสียงความนิยมของกลุ่มคนที่ต้องการเบร็กซิตเริ่มลดลง ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการการแยกตัวแล้ว เพราะเห็นว่าผลลัพธ์มันเลวร้ายมากกว่า
โดยหลายสำนักข่าวในสเปน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ต้องการให้อังกฤษแยกตัวออกจากสมาชิกอียู ระบุว่า กระแสไวรัลที่กำลังมาแรงในช่วงสัปดาห์นี้ คือ #PeoplesVote เพื่อกดดันอังกฤษเปิดพื้นที่ลงประชามติจากประชาชน
ด้าน “แอนเดรีย ลีดซัม” ผู้นำสภาสามัญชนของอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษควรต้องดำเนินการตามคำเรียกร้องของประชาชน หากมีจำนวนมากถึง 17.4 ล้านคน และในวันเสาร์นี้ การชุมนุมใหญ่ของชาวอังกฤษในกรุงลอนดอน ก็เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติเบร็กซิตครั้งใหม่ ซึ่งจำนวนผู้ที่ออกมาประท้วงอาจชี้ให้เห็นถึงความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชนได้
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีการประท้วงจากกลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงลอนดอนปรากฏให้เห็นอยู่เป็นระลอก ในวันที่ 12 มี.ค. และ 14 มี.ค. อย่างไรก็ตาม การประท้วงในวันที่ 23 มี.ค.นี้ ถือว่าจะเป็นการประท้วงต่อต้านการเบร็กซิตครั้งใหญ่