เจแปนไทมส์รายงานเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ว่า “สหรัฐอเมริกา” ได้ตกลงที่จะเพิ่มโควตาการนำเข้า “เนื้อวัว” จาก “ญี่ปุ่น” ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสินค้าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่ต่ำ
โดยปัจจุบัน โควตาเนื้อวัวที่สหรัฐอนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถส่งออกเข้ามาในตลาดอเมริกันอยู่ที่ 200 ตัน/ปี ซึ่งสหรัฐเรียกเก็บภาษีอยู่ที่ 4.4% ต่อกิโลกรัม ขณะที่ภาษีที่ใช้เรียกเก็บเนื้อวัวของญี่ปุ่นที่ส่งเข้ามาเกินโควตา กำหนดไว้ที่ 26.4% ต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม สหรัฐไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะขยายโควตาให้กับเนื้อวัวเป็นจำนวนเท่าใด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ ในปี 2018 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นส่งออกเนื้อวัวไปสหรัฐเกินโควตาอยู่มาก อยู่ที่ 421 ตัน เป็นมูลค่า 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เท่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ผู้นำของทั้งสองมีกำหนดจะเข้าหารือระหว่างกันในประเด็นการค้าที่นครนิวยอร์ก โดยมีคาดการณ์ว่าจะเป็นการหารือต่อเนื่อง จากที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี “ชินโสะ อาเบะ” พยายามเจรจากับประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เกี่ยวกับการเปิดโควตาเนื้อวัวมากขึ้น
ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเคยเสนอการยกเลิกภาษีนำเข้า “ไวน์” ที่ 15% ให้กับสหรัฐ หากสหรัฐเข้าร่วมเป็นสมาชิก “ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)” ซึ่งขณะนี้เป็น “CPTPP” หรือ “ข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก”
ทั้งนี้ ภายใต้กรอบข้อตกลง CPTPP ญี่ปุ่นพยายามกำจัดภาษีอากรขาเข้าสำหรับไวน์ให้สำเร็จภายใน 8 ปีหลังจากที่ CPTPP มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2018 ที่ผ่านมา
