รอยเตอร์สรายงานว่า วุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาได้ลงมติผ่านกฎหมายจำกัดอำนาจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการทำสงครามกับอิหร่าน หลังจากที่ทรัมป์ได้ออกคำสั่งใช้ปฏิบัติการทางการทหารสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่านเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลกที่หวั่นเกรงว่า สถานการณ์อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่
โดยวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 55 ต่อ 44 เสียง เพื่อผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว โดยที่สมาชิกพรรครีพับลิกัน 8 คน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลและครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ได้ออกเสียงให้กับสมาชิกพรรคเดโมแครตฝ่ายค้านจนสามารถผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวได้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
กฎหมายดังกล่าวกำหนดจำกัดอำนาจของประธานาธิบดี ไม่ให้มีอำนาจในการสั่งการกองทหารเพื่อทำสงครามกับอิหร่าน ยกเว้นสภาคองเกรสประกาศสงครามหรือผ่านการอนุมัติเฉพาะสำหรับการใช้กำลังทหารเท่านั้น
ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้จำนวนมาก มองว่าเป็นความพยายามในการคืนอำนาจให้ในการประกาศสงครามให้รับรัฐสภาตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐ ซึ่งในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐต่างพยายามใช้อำนาจทางการทหารโดยไม่ผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องส่งมายังสภาผู้แทนรษฎรเพื่อพิจารณาลงคะแนนเสียงอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งไปให้ประธานาธิบดีลงนามรับรองเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป แต่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้เคยระบุว่าจะใช้อำนาจยับยั้ง (Veto) หากมีการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นสิทธิที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ซึ่งก็จะทำให้กฎหมายฉบับไม่มีผลบังคับใช้จริง
แต่ก็เป็นการแสดงความไม่พอใจของฝ่ายนิติบัญญัติ ต่อการใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดีทรัมป์ และยังสะท้อนความแตกแยกในพรรครีพับลิกันในช่วงหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้ด้วย