“ทรัมป์” ออกคำสั่งห้ามโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปิดทำการ หวั่นขาดแคลนอาหาร

REUTERS/Lane Hickenbottom

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาได้มีคำสั่งพิเศษตาม “กฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกัน” (Defense Production Act) ให้โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์เปิดดำเนินงานตามปกติ เพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐ แม้ว่าจะเกิดเสียงเรียกร้องจากแรงงานที่ต้องการการป้องกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสในพื้นที่ทำงาน

ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้แปรรูปเนื้อสัตว์ระดับโลกของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น Smithfield Foods Inc, Cargill Inc, JBS USA และ Tyson ได้ยุติการโรงฆ่าสัตว์และโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ชั่วคราวราว 20 แห่งในอเมริกาเหนือ หลังจากที่พบคนงานป่วยด้วยโรคโควิด-19 จำนวนมาก ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจเกิดภาวะการขาดแคลนเนื้อสัตว์สำหรับบริโภคได้ โดย John H. Tyson ประธานบริษัท Tyson Foods ระบุว่า “ห่วงโซ่อุปทานอาหารใกล้จะขาดลงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดแคลนเนื้อสัตว์ได้”

คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ได้กำหนดให้ความคุ้มครองทางกฎหมายแก่บริษัทผู้แปรรูปเนื้อสัตว์ และยังมีการให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีที่พนักงานติดเชื้อไวรัสจากการที่ต้องไปทำงาน โดยในคำสั่งระบุว่า “การยุติการดำเนินการโรงงานดังกล่าวกำลังคุกคามความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทานเนื้อสัตว์และสัตว์ปีก และทำลายโครงสร้างพื้นฐานในช่วงเวลาฉุกเฉินระดับชาตินี้” ซึ่งการปิดโรงงานแปรรูปเนื้อวัวเพียงแห่งเดียวจะทำให้ปริมาณเนื้อวัวลดลงถึง 10 ล้านหน่วย/วัน

โดยทางการสหรัฐจะออกคำแนะนำสำหรับบริษัท เพื่อลดความเสี่ยงของแรงงานต่อการติดเชื้อในที่ทำงาน อย่างการอนุญาตให้คนงานที่มีอายุมากและมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังสามารถอยู่บ้านได้ โดยคำสั่งดังกล่าวออกมาเพื่อป้องกันการปิดทำการชั่วคราวของโรงงานจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงได้มากถึง 80%

อย่างไรก็ตาม บริษัทหลายแห่งระบุว่าคำสั่งดังกล่าวสายเกินไปที่จะป้องกันการขาดแคลนเนื้อสัตว์ อย่างในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ผู้เลี้ยงสุกรจำนวนมากได้ทำแท้งลูกหมูจำนวนหลายพันตัวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปิดดำเนินการ ส่วนบริษัทขนาดใหญ่ก็กำลังเตรียมปิดโรงงานเพิ่มเติมอย่าง Tyson ที่กำลังกำลังจะยุติการดำเนินการของโรงงาน 2 แห่งชั่วคราวก่อนที่จะมีคำสั่งประธานาธิบดีออกมา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

ข้อมูลของ กรมวิชาการเกษตรของสหรัฐ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา การแปรรูปเนื้อหมูเหลือเพียงประมาณ 283,000 ตัว ลดลงราว 43% จากช่วงก่อนที่จะมีการเริ่มปิดโรงงานชั่วคราว เช่นเดียวกันการแปรรูปเนื้อวัวที่ลดลงราว 38% เหลือการแปรรูปเพียง 76,000 ตัว

ด้านสหภาพแรงงานอาหารและการค้าสากล (UFCW) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “ขณะที่เราช่วยแบ่งเบาความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาอาหาร คำสั่งของประธานาธิบดีในวันนี้ที่บังคับให้โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ต้องเปิดทำการจะต้องให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของแรงงานเป็นอันดับแรก”

โดยสหภาพได้เรียกร้องให้บริษัทต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันไวรัสที่มีคุณภาพสูงให้กับผู้ที่ปฏิบัติงานในโรงงานทุกคน และต้องมีการตรวจหาเชื้อให้กับกับแรงงานทุกวัน โดยข้อมูลของสหภาพระบุว่า มีคนงานในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ของสหรัฐป่วยด้วยโรคโควิด-19 แล้วกว่า 6,500 คนและเสียชีวิตถึง 20 ราย