“โกลเด้นวีค” คึกคัก ชาวจีน 630 ล้านคน ท่องเที่ยว-ยอดค้าปลีกพุ่ง 5%

เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัว “โกลเด้นวีค” ช่วงหยุดยาวจีนยอดค้าปลีก-ร้านอาหารเพิ่ม5% ประชาชนกว่า 637 ล้านคนเดินทางท่องเที่ยวใช้จ่ายอย่างคึกคัก

สำนักข่าวเซาท์ ไชน่ามอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่ากระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยรายได้ ในช่วง “โกลเด้น วีค” เทศกาลหยุดยาวของจีนวันที่ 1-8 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการค้าปลีกและร้านอาหารทำยอดขายรวม 1.6 พันล้านหยวน (7.4 ล้านล้านบาท) โดยยอดขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่ม 4.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังช่วงโรคโควิด-19 ระบาด

ความสำเร็จของช่วงโกลเด้นวีคเห็นได้จากการใช้จ่ายอย่างที่ “มณฑลไห่หนาน” เกาะทางใต้ของจีนที่มีรายได้ถึง 1.04 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มงบการใช้จ่ายในร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) จาก 30,000 หยวนเป็น 100,000 หยวน (462,800 บาท) และธุรกิจโรงหนังที่มีรายได้ทั้ง 8 วันรวมกันถึง 3.09 พันล้านหยวน (1.4 หมื่นล้านบาท)

นอกจากนี้ “ไชน่า ยูเนียนเพย์” รายงานระบบบริการทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของจีนรายงานว่าการใช้จ่ายในช่วงเจ็ดวันแรกเพิ่มขึ้น 6.3% จากปีที่แล้ว ซึ่งวันแรก (1 ต.ค.) ได้มีการใช้จ่ายถึง 330 พันล้านหยวน มากกว่า 16% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

รายงานข่าวระบุว่าการท่องเที่ยวประเทศจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงโกลเด้นวีคที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่แล้ว ข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุดยาวรวมทั้งสิ้น 637 ล้านคน สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว 466.5 พันล้านหยวน ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงเกือบ 21% จากปีก่อนหน้า ขณะที่การใช้จ่ายลดลง 30%

โดยจำนวนคนเดินทางท่องเที่ยวต่อวันลดลงบนท้องถนน 31% เหลือ 47.3 ล้านคนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีอัตราจำนวนคนขึ้นเครื่องบินลดลง 9%

“แลร์รี่ ฮู” นักเศรษฐศาสตร์ของจีนจากธนาคารแมคควอรี่ กรุ๊ป กล่าวว่าแม้ตัวเลขคนเดินทางน้อยลง แต่ก็เห็นการฟื้นตัวของยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3-4% การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวให้กับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างจีน ซึ่งกำลังปรับนโยบายเศรษฐกิจมามุ่งเน้นกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศเพื่อชดเชยสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอนมากขึ้น