กษัตริย์มาเลเซียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยการประชุมรัฐสภาจะยกเลิกทั้งหมด และนายกฯ กับคณะรัฐมนตรีสามารถผ่านร่างกฏหมายโดยไม่ต้องผ่านสภาได้
วันที่ 12 มกราคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดี “อับดุลละฮ์ ชะฮ์ สุลต่าน” แห่งรัฐปะหังและยังดีเปอร์ตวนอากงแห่งประเทศมาเลเซีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศตั้งแต่วันนี้ (12 ม.ค.) เป็นต้นไป หลัง “มูห์ยิดดิน ยัสซิน” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยื่นขอให้กษัตริย์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากอัตราผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทางราชวงศ์มาเลเซียแถลงการณ์ว่า กษัตริย์มาเลเซียเห็นว่าอัตราการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักภายในประเทศ ทำให้ต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 ส.ค. หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 3,000 คนต่อวัน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 138,000 คน และผู้เสียชีวิตอีก 555 คน
ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าสถานการณ์ฉุกเฉินจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวมาเลเซียอย่างไร แต่ข้อบังคับจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะทำให้หยุดการประชุมรัฐสภาทั้งหมด ซึ่งตามกฏหมาย นายกฯ และคณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติร่างกฏหมายโดยไม่ต้องผ่านรัฐสภาได้
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านในรัฐสภามองว่าการที่นายกฯ มาเลเซีย ยื่นเรื่องขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเพราะว่ารัฐบาลต้องการ “กุมอำนาจ” มากกว่าจากการระบาดของโรค เนื่องจากตอนนี้มีฝ่ายค้าน รวมทั้งพันธมิตรรัฐบาลกดดันให้มูห์ยิดดินลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
“นิค อาห์มาด คามาล นิค มาห์มูด” ผู้เชี่ยวชาญกฏหมายมหาวิทยาลัย “อินเทอร์แนชั่นแนล อิสลามิค ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ มาเลเซีย” กล่าวว่าสถานการณ์ฉุกเฉินน่าจะเป็นข้ออ้างที่ให้ทางรัฐบาลออกกฏหมายที่ต้องการได้มากกว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรค