อินโดนีเซียกำลังเรียกร้องให้ผู้ที่มีสิทธิได้รับวัคซีนโควิด-19 เข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกับเร่งโปรแกรมการฉีดวัคซีน เพื่อลดการระบาดในประเทศ ซึ่งมีการระบาดมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 บลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียสามารถลงโทษผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน ด้วยการหยุดหรือชะลอโครงการช่วยเหลือและบริการทางสังคมต่าง ๆ รวมถึงกำหนดค่าปรับ ตามข้อบังคับประธานาธิบดีฉบับแก้ไข ซึ่งถือเป็นการลงโทษที่ให้รัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสินใจ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
- อธิบดีราชทัณฑ์ เปิดไทม์ไลน์ บุ้ง ทะลุวัง ก่อนเสียชีวิต
การบังคับฉีดวัคซีนนี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ท่ามกลางความลังเลที่มีต่อการฉีดวัคซีน ที่มีการพัฒนาอย่างเร่งรีบ
การสำรวจเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า ชาวอินโดนีเซียประมาณ 65% ต้องการฉีดวัคซีน ส่วนที่เหลือเป็นผู้ที่มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย, ความเสี่ยงด้านสุขภาพ และไม่แน่ใจว่าวัคซีนเป็นฮาลาลหรือไม่ โดยหลังจากมีการเผยแพร่ผลสำรวจ รัฐบาลอินโดนีเซียจึงฉีดวัคซีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
อินโดนีเซียต้องบริหารจัดการการฉีดวัคซีนมากกว่า 1.7 ล้านครั้ง ในโครงการซึ่งมีประธานาธิบดีโจโค วิโดโด เป็นผู้รับวัคซีนคนแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค
อย่างไรก็ตาม โครงการฉีดวัคซีนของอินโดนีเซียนั้นยังมีหนทางอีกยาวไกล เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมากกว่า 180 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังได้ลงนามในข้อตกลงกับผู้ผลิตรายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี และโนวาแวกซ์ อิงค์ ด้วย แม้ว่าวัคซีนของสองบริษัทนี้จะยังไม่ได้จัดส่งมาก็ตาม