เกาหลีใต้ทุ่ม ฮับผลิตวัคซีน หวังปั้น Top 5 ของโลก

ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา “มุน แจ อิน” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศลงทุน 2.2 ล้านล้านวอน (6.4 หมื่นล้านบาท) สำหรับการพัฒนาฐานผลิตวัคซีนประเทศ พร้อมเป้าหมายการเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก เหมือน จีน, อินเดีย, สหภาพยุโรป, สหรัฐ โดยตั้งเป้าหมายติดท็อป 5 ของโลก ภายในปี 2025

“ทางเกาหลีใต้วางแผนจะผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งกำลังขาดแคลนอย่างมากในประเทศยากจน เนื่องจากหากยังไม่มีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกประเทศ เราจะไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้ ซึ่งเกาหลีใต้ต้องการแก้ปัญหาดังกล่าว พร้อมกับเป้าหมายเป็นฐานการผลิตวัคซีนขนาดใหญ่ระดับโลก” มุน แจ อิน กล่าว

“มุน แจ อิน” กล่าวว่า เป้าหมายของเกาหลีใต้ไม่เพียงจะผลิตวัคซีนสำหรับใช้แค่ภายในประเทศ แต่จะเป็นฐานการผลิตให้กับทั่วโลก พร้อมตั้งเป้าหมายว่า จะเปิดตัววัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งวิจัยและพัฒนาโดยเกาหลีใต้เองได้ ภายในครึ่งแรกของปีหน้า

“ควอน เดอก ชอล” รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ กล่าวว่า การลงทุนจะสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนของประเทศเอง รวมถึงการนำเข้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า “เอ็มเอ็นเอ” (mRNA) โดยทางการจะให้การส่งเสริมด้วยการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี เพื่อจูงใจให้หลาย ๆ บริษัทนำเข้าอุปกรณ์เพื่อสร้างฐานการผลิต

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า จะมีการ “ปั้นแรงงาน” นักเทคนิคการแพทย์ 200 ตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยในมนุษย์ 2,000 ตำแหน่ง และบุคลากรที่ทำงานด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพอีก 2,000 ตำแหน่งในทุก ๆ ปี และจะมีการร่วมมือกับหลายประเทศทั่วโลก เป็นพาร์ตเนอร์การผลิตวัคซีนกับชาติตะวันตก รวมถึงดึงการลงทุนจากต่างประเทศมาด้วย

Advertisment

โดยก่อนหน้านี้ “มุน แจ อิน” และ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐได้ตกลงความร่วมมือกัน ซึ่งสหรัฐจะนำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตวัคซีนมาร่วมมือกับศักยภาพการผลิตของเกาหลีใต้

ศาสตราจารย์กิตติคุณ “ลี โฮนจอง” จากโรงพยาบาลเด็ก มหาวิทยาลัยโซล กล่าวว่า เป็นไอเดียที่ดีสำหรับการร่วมมือ ระหว่างภาคการผลิตวัคซีนของเกาหลีใต้ กับความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนของสหรัฐ และประเทศแถบยุโรป เนื่องจากเกาหลีใต้มีฐานการผลิตที่ดี รวมทั้งมีวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านชีวภาพอยู่มาก แต่ยังไม่เก่งทางด้านการวิจัยเบื้องต้นและพัฒนาวัคซีน

โฮนจองระบุด้วยว่า เป็นไปได้ที่ภาคการผลิตวัคซีนจะเป็นหัวหอกใหม่ที่มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกาหลีใต้ นอกจากการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และแบตเตอรี่ และเป็นการต่อยอดจากปัจจุบันที่เป็นผู้ผลิตสินค้า “การแพทย์แบบตะวันตกสมัยใหม่” รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของยักษ์ผลิตยาอย่างเช่น “ซัมซุง ไบโอโลจิกส์” และ “เอสเค ไบโอไซเอนซ์” ด้วย

อย่างไรก็ตาม “คิม วู จู” อาจารย์ด้านโรคติดต่อ โรงพยาบาลกูโร มหาวิทยาลัยเกาหลี กล่าวว่า เกาหลีใต้สามารถเป็นฐานการผลิตสำหรับการพัฒนาวัคซีนได้ แต่แทบจะไม่มีทางที่จะสามารถแข่งขันด้านการวิจัย และพัฒนาในระดับเดียวกับบริษัทสหรัฐและยุโรปได้

Advertisment