100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ร้อยปีแห่งเกียรติยศสู่ความรุ่งโรจน์

นอกรอบ

เหลี้ยว จุ้นหยุน
กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ขอนแก่น

 

วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันครบรอบ 100 ปี แห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งในช่วง 100 ปีที่มีการก่อตั้งมานี้ พรรคอมมิวนิสต์จีนได้นำพาประชาชนจีนฝ่าฟันอุปสรรคและต่อสู้อย่างกล้าหาญ จนได้ก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ริเริ่มการสร้างสรรค์สังคมนิยมรูปแบบใหม่และเริ่มต้นการพัฒนาครั้งใหม่ เพื่อการฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน และในโอกาสนี้ กระผมขอนำเพื่อนพี่น้องชาวไทยที่ให้ความใส่ใจต่อการพัฒนาประเทศจีน ร่วมกันย้อนอดีตประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา และมองไปข้างหน้าถึงอนาคตอันสว่างไสวในการพัฒนาของประเทศจีน พร้อมกันกับทุกท่าน

ตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รวมตัวกันนำพาประชาชนจีนเผชิญหน้าต่อสู้กับความยากลำบาก และได้สร้างอุดมการณ์อันรุ่งโรจน์ที่ส่องประกายผ่านพงศาวดารของประวัติศาสตร์

– ประการแรก คือ การกอบกู้ชาติและบรรลุอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่แห่งความอยู่รอดของชาติ หลังสงครามฝิ่นในปี พ.ศ. 2383 เนื่องจากการรุกรานของมหาอำนาจตะวันตก และการทุจริตของระบอบศักดินา ผืนแผ่นดินนี้ได้มีสงครามเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานจากความเหน็บหนาวและความหิวโหย อีกทั้งยังตกเป็นทาส

มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีอุดมการณ์อันสูงส่งได้คิดค้นหาแนวทางที่จะเปลี่ยนอนาคตและชะตากรรมของชาติจีนอย่างแข็งขัน ได้มีการทดลองการปกครองระบบรูปแบบต่าง ๆ มากมาย แต่ทั้งหมดกลับสิ้นสุดลงด้วยความล้มเหลว

Advertisment

“เสียงของการปฏิวัติเดือนตุลาคม นำลัทธิมาร์กซ์-เลนินมาสู่จีน” การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี พ.ศ. 2464 ทำให้การปฏิวัติของจีนมีกระดูกสันหลัง และเป็นผู้นำปฏิวัติสำหรับชาติจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดที่จะรวมหลักการพื้นฐานของลัทธิมาร์กซ์เข้ากับความเป็นจริงที่เป็นรูปธรรมของการปฏิวัติจีน และยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในทางทฤษฎีและการปฏิบัติต่อไป โดยได้นำประชาชนจีนเอาชนะจักรวรรดินิยมญี่ปุ่น ล้มล้างการปกครองที่ไม่เป็นธรรมของพรรคก๊กมินตั๋ง และการต่อสู้นองเลือดยาวนานกว่า 28 ปีก็ได้สิ้นสุดลง จึงริเริ่มก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดศักราชใหม่ในประวัติศาสตร์จีน

– ประการที่สอง คือ ทำการสำรวจอย่างวิริยอุตสาหะ เพื่อบรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูประเทศครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้นำประชาชนจีนไปสู่การปฏิวัติระบบสังคมนิยม ก่อตั้งระบบสังคมนิยมขั้นพื้นฐาน และประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่กว้างขวาง และลึกซึ้งที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ชาวจีนเป็นผู้ที่พึ่งพาตนเองและทำงานอย่างขยันขันแข็ง

ก่อตั้งระบบอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ สะสมประสบการณ์ที่สำคัญในการก่อสร้างสังคมนิยม และวางข้อกำหนดพื้นฐานทางการเมือง ระบบ และโครงสร้างทางด้านวัตถุ เพื่อความผาสุกของประชาชนและการฟื้นฟูประเทศชาติ

– ประการที่สาม คือ มองการณ์ไกล มุ่งสร้างประเทศที่มั่งคั่ง หลังจากการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 ในปี พ.ศ. 2521 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สรุปประสบการณ์การสร้างสังคมนิยม พร้อมกับอ้างอิงประสบการณ์ระดับนานาชาติ ดำเนินนโยบายระดับชาติขั้นพื้นฐานทางการปฏิรูปและการเปิดประเทศ ประสบความสำเร็จในการบุกเบิกระบบลัทธิสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์จีน และยกระดับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความแข็งแกร่งของชาติโดยรวมและระดับคุณภาพชีวิตประชากรของประเทศจีนให้สูงยิ่งขึ้น

Advertisment

ประเทศจีนได้กลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ก้าวสู่การเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง ประชาชนจีนได้ก้าวไปข้างหน้าสู่ความมั่งคั่งและมั่นคง

– ประการที่สี่ คือ ยึดมั่นในความทะเยอทะยานดั้งเดิม และมุ่งมั่นเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทำให้ประเทศแข็งแกร่งขึ้น นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่ระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยมีสหาย สี จิ้นผิง เป็นแกนนำหลัก ได้ประสานงานเพื่อส่งเสริมรูปแบบโดยรวมของ “ห้าในหนึ่งเดียว” ประสานงานส่งเสริมยุทธศาสตร์ “สี่ครอบคลุม” นำแนวคิดการพัฒนาใหม่มาใช้อย่างเต็มที่ สร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ และส่งเสริมการปกครองระดับชาติรวมถึงความสามารถในการกำกับดูแลของผู้นำ ล้วนได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย กิจการของพรรคและชาติได้บรรลุสู่ความเปลี่ยนแปลงและประสบความสำเร็จทางประวัติศาสตร์

จีนได้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ใหญ่อันดับหนึ่ง เป็นประเทศการค้าอันดับหนึ่ง เป็นประเทศที่สำรองเงินตราต่างประเทศอันดับหนึ่ง และเป็นประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศเป็นอันดับหนึ่ง และสร้างคุณูปการให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกมากกว่า 30% ต่อปี ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนในการสร้างสังคมอยู่ดีกินดีอย่างรอบด้าน รายได้รวมประชาชาติเฉลี่ยต่อหัวมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมาตรฐานการครองชีพของประชาชนได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ การต่อสู้เพื่อบรรเทาความยากจนได้รับชัยชนะอย่างเต็มที่

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่ระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคน ได้พ้นจากความยากจนโดยเฉลี่ยทุกปี นับตั้งแต่การปฏิรูปและการเปิดประเทศ ตามมาตรฐานความยากจนในปัจจุบัน คนจนในชนบทจำนวน 770 ล้านคนในจีน ได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว นับเป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์ของการลดความยากจนของมนุษย์

ทั้งนี้ จีนได้สร้างระบบประกันสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานครอบคลุมประชาชนกว่า 1,300 ล้านคน และประกันผู้สูงอายุขั้นพื้นฐานครอบคลุมถึง 1 พันล้านคน อายุขัยเฉลี่ยของผู้อยู่อาศัย ในปี 2492 เพิ่มขึ้นจาก 35 ปี เป็น 77.3 ปี เห็นได้ว่าจีนกำลังก้าวไปสู่เป้าหมายในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างรอบด้าน

เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคการเมืองที่แสวงหาความผาสุกให้แก่ประชาชนจีน และยังเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งมั่นเพื่อความก้าวหน้าของมนุษย์ ภารกิจพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้คำนึงถึงการสร้างคุณูปการใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่เพื่อมนุษยชาติอยู่เสมอ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่มีความสำคัญอย่างมากต่อประชาชนจีน แต่ยังส่งผลดีอย่างยิ่งใหญ่ต่อประชาคมโลกอีกด้วย

ประการแรก คือ การจัดให้มีประสบการณ์ในเรื่องของ “การบริหารพรรค” พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สั่งสมประสบการณ์และการปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จ โดยยืนหยัดในแนวทางที่จะให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ติดต่อสื่อสารกับประชาชนอย่างใกล้ชิด รับฟังความคิดเห็นของสาธารณชน ต่อต้านการทุจริตและเสริมสร้างขีดความสามารถในการกำกับดูแลตลอดระยะเวลา 100 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์และครองอำนาจ 72 ปี ซึ่งได้ให้ประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการกำกับดูแลพรรคในประเทศอื่น ๆ ในโลก

ประการที่สอง คือ การให้ภูมิปัญญาจีนของ “การปกครองชาติ” พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์จีนอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความทันสมัยของระบบธรรมาภิบาลแห่งชาติ และความสามารถในการกำกับดูแล และบรรลุธรรมาภิบาลที่มีประสิทธิผลและความก้าวหน้าอย่างครอบคลุมในการสร้างเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรมและอารยธรรมนิเวศวิทยา เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับประเทศอื่น ๆ

ผลงานที่โดดเด่นของจีนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นอีกข้อพิสูจน์ที่แข็งแกร่งถึงข้อดีของระบบการปกครองของจีน และความสามารถในการกำกับดูแล เราไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในการควบคุมโรคระบาดภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดส ไปยังกว่า 100 ประเทศ ส่งออกวัคซีนไปยัง 43 ประเทศ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดให้กว่า 150 ประเทศ และ 13 องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก

ประการที่สาม คือ การจัดหาวิธีแก้ปัญหาของจีนสำหรับ “ธรรมาภิบาลโลก” จีนเป็นผู้มีส่วนร่วมและมีส่วนสำคัญในการกำกับดูแลโลกมาโดยตลอด สถานการณ์โรคระบาดในศตวรรษปัจจุบันได้เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงใน 100 ปี ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เราจะยังคงหลักการประชาคมร่วมชะตากรรมของมนุษยชาติ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในธรรมาภิบาลระดับโลก พร้อมทั้งสร้างคุณูปการใหม่ ๆ ในการปฏิรูปและปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลทั่วโลก

– เมื่อไม่นานมานี้ ภายใต้การสนับสนุนของนักการเมืองอเมริกันบางกลุ่ม นักการเมืองกลุ่มน้อยในประเทศตะวันตกได้สร้างข่าวลือต่อต้านจีนอีกครั้ง พวกเขาเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า จีนเป็นประเทศที่เปิดกว้างและโปร่งใส จีนมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 พวกเขาทำร้ายชื่อเสียงของประเทศจีนในเชิงลบ ทั้งยังเพิกเฉยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ความสามัคคีของประชาชาติจีน และความมั่นคงทางสังคมในซินเจียงของประเทศจีน รัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบายที่ถูกต้อง

เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย รักษาความมั่นคงทางสังคม พวกเขาใส่ร้ายป้ายสีว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พวกเขามองข้ามความโกลาหลในฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้เสริมสร้างการปกครองที่มีประสิทธิภาพในฮ่องกงตามกฎหมาย และการปกป้อง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ร่วมกับฮ่องกง เพื่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในระยะยาวนั้น ทั้งหมดนี้ถูกใส่ร้ายว่าเป็น “การละเมิดเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของชาวฮ่องกง” พรรคหมินจิ้นไต้หวัน ได้พึ่งพาตะวันตกเพื่อแบ่งแยกดินแดน “ไต้หวัน” ของจีน ชึ่งก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน แต่พวกเขาใส่ร้ายว่าเป็น “การพยายามเปลี่ยนสถานะเพียงแต่ฝ่ายเดียว ข้ามช่องแคบไต้หวัน” จีนยึดมั่นในการปกป้องอธิปไตยและดินแดนของจีน จีนได้ปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเข้มงวด และได้สร้างผลงานที่โดดเด่นอันมากมายเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพของโลก แต่พวกเขาใส่ร้ายว่า จีนได้ท้าทายกฎระเบียบสากล

– คำพูดและการกระทำของนักการเมืองตะวันตกบางคนดังกล่าว ไม่เพียงแต่ทำร้ายความรู้สึกของประชาชนจีนจำนวน 1,400 ล้านคน แต่ยังละเมิดผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนในประเทศของพวกเขา

– การกระทำอย่างนี้ถือว่าขาดความรับผิดชอบอย่างมาก และไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เราอยากชี้แนะนักการเมืองตะวันตกเหล่านั้นว่า ข่าวลือไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงได้ และไม่มีใครสามารถหมิ่นประมาทต่อการคิดวิเคราะห์และการตัดสินของประชาคมโลกได้ เช่นเดียวกับการโจมตีพรรคคอมมิวนิสต์จีนในอดีต กระแสสร้างข่าวลือครั้งใหม่นี้โดยนักการเมืองในตะวันตกบางกลุ่มนั้นจะต้องจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างแน่นอน

ในกระบวนการทางประวัติศาสตร์นำชาวจีนต่อสู้เพื่อปลดแอกชาติจีนและการสร้างชาตินั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยถูกกองกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์นานาชาติจงใจกลั่นแกล้ง รุกรานและกดขี่ แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เคยหวาดระแวงแต่อย่างใด แต่กลับต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ โดยยืนหยัดที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องและดำเนินไปตามวิถีทางของตนเอง เพราะเราเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราทำนั้นมีความชอบธรรม และความชอบธรรมของสิ่งที่ทำนั้นจะอยู่ยงคงกระพัน โดยในทางประวัติศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้ว และจะยังคงพิสูจน์ความจริงนี้ต่อไป

– เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเราเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อมองไปข้างหน้า พวกเราล้วนมีความมั่นใจเอย่างเต็มเปี่ยม ทุกวันนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ใหม่ และจีนได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างครอบคลุม ความสำเร็จของประเทศจีนในการบรรลุเป้าหมาย 100 ปีที่สอง และการตระหนักถึงการฟื้นฟูครั้งใหญ่ของประชาชาติจีน จะเป็นการสร้างโอกาสความร่วมมือระหว่างประเทศจีน และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

– ประเทศไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่มีอิทธิพลระหว่างประเทศที่สำคัญ ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมื่อครั้งอดีต ทั้งจีนและไทยได้ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน

– ในการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการค้า การก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง และความร่วมมือในการบรรเทาความยากจน ซึ่งได้ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้ง 2 ประเทศ ในปัจจุบัน ในช่วงโควิด-19 รุนแรงนี้ จีนและไทยต้องสามัคคีและช่วยเหลือกันมากขึ้น เพื่อต่อสู้กับโรคระบาด จำเป็นต้องเพิ่มความร่วมมือในทางปฏิบัติในด้านการค้าและการลงทุน การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การเงิน เทคโนโลยี การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ มากขึ้น เพื่อเอาชนะความยากลำบากในปัจจุบัน ขจัดผลกระทบของโรคระบาด และส่งเสริมความก้าวหน้าทางสังคม ผมเชื่อว่าด้วยความพยายามร่วมกันของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ในที่สุดเราจะเอาชนะการแพร่ระบาดและนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยิ่งใหญ่ของทั้ง 2 ประเทศ

เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง ได้กล่าวไว้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอุดมการณ์มุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้กับประชาชาติจีน และเป็น 100 ปีแห่งความเจริญรุ่งเรือง พวกเราเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน อนาคตการพัฒนาของจีนจะแจ่มใสยิ่งขึ้น การฟื้นฟูครั้งใหญ่ของประชาชาติจีนจะบรรลุผลสำเร็จอย่างแน่นอน ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในอนาคตนี้จะนำไปสู่ความรุ่งโรจน์มากยิ่งขึ้น