ตร.อิหร่านถูกยิงดับ 1 นาย เหตุปราบม็อบต้านรัฐบาล อียูจี้รับรองสิทธิการชุมนุมของปชช.

เอเอฟพี

เมื่อวันที่ 2 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านเหตุจากความไม่พอใจของประชาชนจากปัญหาข้าวยากหมากแพงที่ดำเนินมาต่อเนื่องถึง 5 วันแล้วเมื่อวันที่ 2 มกราคม โดยมีรายงานการเสียชีวิตของตำรวจอิหร่าน 1 นาย ในระหว่างที่มีการปราบปรามม็อบผู้ประท้วงระบอบปกครองอิหร่านครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนในกรุงเตหะรานในช่วงเย็นวันที่ 1 มกราคม ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธหนักจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ โดยเหตุการณ์ความไม่สงบยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ตามจังหวัดและเมืองใหญ่ต่างๆ แม้ว่าจะมีคลิปเหตุการณ์ประท้วงที่มีการโพสต์ทางโซเชียลมีเดียไม่มากนัก ที่อาจทำให้เห็นว่ามีการออกมาเคลื่อนไหวน้อยลงของกลุ่มผู้ประท้วง อย่างไรก็ดี สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ที่ถูกยิงด้วยปืนล่าสัตว์ในเมืองนาจาฟาบัด ท่ามกลางการประกาศกร้าวของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ที่ว่าจะจัดการกับ “ผู้ก่อจลาจลและผู้ละเมิดกฎหมาย”

นายอาลี ชัมคานี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ชี้ว่าเหตุความไม่สงบที่ถือเป็นการท้าทายคณะผู้ปกครองครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2552 ถือเป็นการทำสงครามตัวแทนต่อชาวอิหร่าน “แฮชแท็กและข้อความที่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่าน มาจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และซาอุดีอาระเบีย” นายชัมคานีกล่าวกับสื่อท้องถิ่น

ด้านกระทรวงข่าวกรองอิหร่านเผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่า “ตัวบงการถูกระบุตัวตนแล้วและจะถูกจัดการอย่างหนักในไม่ช้า”

จนถึงขณะนี้กองกำลังปฏิวัติอิหร่านยังไม่ยื่นมือเข้าแทรกแซงอย่างเต็มที่ในการจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง แต่กองกำลังปฏิวัติอิหร่านก็ได้เผยแพร่ภาพบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวจำนวน 3 คน พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนรายงานถึงผู้ที่ปลุกระดมก่อความรุนแรงเข้ามาด้วย ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุประท้วงที่เกิดขึ้นในอิหร่านตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีรวมแล้วทั้งสิ้น 13 ราย

สหภาพยุโรป (อียู) ออกมาเรียกร้องให้อิหร่านรับรองสิทธิในการชุมนุมอย่างสันติและเสรีภาพในการแสดงออกของกลุ่มผู้ประท้วง และว่า อียูจะเฝ้าดูพัฒนาการที่เกิดขึ้นในอิหร่านต่อไป ขณะที่ก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อิหร่านว่า “ถึงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง” และว่า “ชาวอิหร่านมีความกระหายต่อเสรีภาพ”

 

ที่มา : มติชนออนไลน์