UN เตรียมสอบสวนการสังหารเด็กในยูเครน เอธิโอเปีย โมซัมบิก

UN เตรียมสอบสวนการสังหารเด็กในยูเครน เอธิโอเปีย โมซัมบิก
(Photo by Yuriy Dyachyshyn / AFP)

สหประชาชาติเตรียมสอบสวนการสังหาร-ทำร้ายเด็กในยูเครน-เอธิโอเปีย-โมซัมบิก

วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า “อันโตนิโอ กูแตร์เรส” เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า ยูเอ็นจะสอบสวนการสังหารและการทำร้ายร่างกายเด็กในยูเครน เอธิโอเปีย และโมซัมบิก หลังรายงานฉบับใหม่ระบุว่า พบเด็ก 2,515 รายถูกสังหาร ส่วนอีก 5,555 รายได้รับบาดเจ็บ จากความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2564

รายงานประจำปี “Children and Armed Conflict” ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ยังยืนยันด้วยว่า มีเด็ก 6,310 รายที่เป็นเหยื่อความขัดแย้งต่าง ๆ ทั่วโลก ในปี 2564 ขณะที่การละเมิดในรายงานนั้นครอบคลุมถึงการลักพาตัว ความรุนแรงทางเพศ การโจมตีโรงเรียนและสถานพยาบาลต่าง ๆ และการปฏิเสธความช่วยเหลือระหว่างความขัดแย้ง

รายงานฉบับนี้รายงานด้วยว่า การละเมิดต่อเด็กที่ได้รับการยืนยันสูงสุดในปี 2564 เกิดขึ้นในเยเมน ซีเรีย อัฟกานิสถาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โซมาเลีย อิสราเอล และดินแดนปาเลนสไตน์

กูแตร์เรสกล่าวอีกว่า รายงานในปีหน้าจะครอบคลุมถึงการละเมิดที่ได้รับการยืนยันต่อเด็กในยูเครน เอธิโอเปีย และโมซัมบิก ด้วย

“เวอร์จิเนีย กัมบา” ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติเพื่อเด็กและความขัดแย้ง กล่าวว่า การละเมิดที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน มากที่สุด 2 อันดับแรก ได้แก่ การสังหารและทำให้เด็กพิการ รวมถึงการโจมตีโรงเรียนและสถานพยาบาล

ขณะที่ “มิเชล บาเชเลต์” ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พลเรือนประมาณ 4,889 รายถูกสังหารในยูเครน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 335 ราย พร้อมกับเน้นว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก

รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธว่าพุ่งเป้าไปที่พลเรือน

รายงานความขัดแย้งด้านเด็กและอาวุธ ซึ่งรวมถึงการขึ้นบัญชีดำที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความอับอายให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง โดยหวังว่าจะผลักดันให้พวกเขาดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องเด็ก

รายงานดังกล่าวทำให้เกิดการโต้เถียงมานานแล้ว โดยนักการทูตระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล ใช้แรงกดดันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อพยายามให้ประเทศของตัวเองพ้นจากบัญชีดำของสหประชาชาติ

“เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่เสมอเมื่อรายงานนี้ออกมาทุกปี เพราะมันได้แสดงถึงรายการหลักฐานการล่วงละเมิด การเสียชีวิต เด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากความขัดแย้งทั่วโลก” เจมส์ เบยส์ บรรณาธิการด้านการทูตของอัลจาซีราห์กล่าว และว่า

“ด้านท้ายของรายงานมีภาคผนวก ซึ่งเป็นบัญชีดำที่ระบุว่าประเทศใด และกลุ่มติดอาวุธใดบ้าง ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารและทำร้ายเด็ก”

เขากล่าวด้วยว่า นั่นเป็นข้อขัดแย้งเพราะเมื่อดูรายชื่อแล้ว ผู้กระทำผิดบางคนไม่ถูกกล่าวถึงในรายงานนี้

ทั้งนี้ อิสราเอลไม่เคยอยู่ในบัญชีดำดังกล่าว ขณะที่กลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ได้ถูกถอดออกจากบัญชีดำเมื่อปี 2563 หลังจากถูกระบุชื่อครั้งแรกในเรื่องเกี่ยวกับการสังหารและทำร้ายเด็กในเยเมน

“ฝ่ายที่ทำสงครามส่วนใหญ่ในเยเมนมีชื่ออยู่ในบัญชีดำ แต่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสังหารและทำให้เด็กเยเมนพิการ 100 คนเมื่อปีที่แล้ว กลับไม่อยู่ในรายชื่อบัญชีดำ” เบย์ส กล่าว

“หากคุณดูสถานการณ์เกี่ยวกับอิสราเอลและปาเลสไตน์ ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีดำ แม้ว่ารายงานจะเน้นว่า เด็กปาเลสไตน์ประมาณ 86 รายถูกสังหารในปีนั้น” เขากล่าว

กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลสังหารเด็กชาวปาเลสไตน์ 78 ราย และทำให้เด็กบาดเจ็บอีก 982 ราย รวมถึงควบคุมตัวเด็กอีก 637 รายในปี 2564 ขณะที่ในเยเมน กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียสังหารและทำให้เด็กพิการประมาณ 100 รายเมื่อปีที่แล้ว

“หากสถานการณ์ซ้ำรอยปีในปี 2565 โดยไม่มีการแก้ไข อิสราเอลควรอยู่ในบัญชีดำ” กูแตร์เรสเขียนในรายงาน พร้อมระบุว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตในเด็กลดลงอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมน”