เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ทางการจีนกล่าวเตือนสหรัฐอเมริกาว่ากำลังมีแนวโน้มใช้นโยบายกีดกันทางการค้าสูงขึ้น ภายหลังการเปิดเผยจดหมายที่ลงนามโดยสมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำรัฐสภาสหรัฐแสดงความกังวลว่า บริษัท หัวเว่ย ธุรกิจยักษ์ใหญ่ทางด้านคมนาคมของโลกจากจีน และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสามของโลก อาจมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และอาจกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ รวมไปถึงความกังวลด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาด้วย สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน
นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า ทางการจีนพบแนวโน้มกลยุทธ์กีดกันทางการค้าของสหรัฐที่กำลังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยขอย้ำว่าจีนและประชาคมโลกนั้นมีจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านการกีดกันทางการค้าและส่งเสริมการค้าเสรี
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
จดหมายดังกล่าวลงวันที่ 20 ธ.ค. 2560 ระบุรายละเอียดว่าความกังวลนี้ได้รับการแจ้งต่อสภาคองเกรสครั้งแรกตั้งแต่ปี 2556 โดยฝ่ายสืบสวนของคณะกรรมาธิการข่าวกรองสหรัฐ ย้ำว่าการสืบสวนเชิงลึกพบข้อมูลที่บ่งชี้และเน้นย้ำถึงความกังวลของความเกี่ยวข้องกันระหว่างหัวเว่ยกับหน่วยจารกรรมข้อมูลของจีน
นอกจากนี้ จดหมายฉบับนี้ยังส่งต่อไปให้สำนักงานสืบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ และสำนักงานข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ รวมไปถึงคณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมสหรัฐ หรือเอฟซีซี โดยระบุว่า เอฟซีซีจำเป็นต้องรับทราบถึงภัยคุกคามจากหัวเว่ยและธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีอื่นๆ จากประเทศจีน
กระแสข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวทางธุรกิจ ที่เอทีแอนด์ที บริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกาไม่บรรลุการเจรจาหุ้นส่วนทางธุรกิจกับหัวเว่ยในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยในอเมริกา
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
