บริทาเนีย รุก 12 โครงการ เจาะทำเลอีสาน-ตะวันออก-กลาง

บริทาเนีย เปิดแนวรบปี 65 ผุด 12 โครงการบ้านใหม่ ขยายทำเลสู่อีสาน-ตะวันออก-กลาง ชูจุดเด่นบ้านรุ่นใหม่ นำร่องติดตั้งระบบพลังงานทางเลือกในพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งเป้ายอดพรีเซล 1.1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตได้ดี จากปัจจัยหนุนด้านการเปิดประเทศ และ GDP ของไทยคาดการณ์เติบโต 3-4%

ขณะเดียวกันการผ่อนปรนหลักเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV เป็นการชั่วคราว ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกับสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องได้ 100% ของมูลค่าหลักประกัน

เป็นแรงส่งกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านแนวราบ จึงทำให้คาดว่าจะเห็นการพัฒนาโครงการกระจายตัวสู่พื้นที่รอบนอก กทม.มากขึ้น

Advertisment

ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกการทยอยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ การขยายโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯสู่ภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นโอกาสขยายทำเลเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดหัวเมือง

ยุทธศาสตร์สำคัญในปี 2565 ของบริทาเนีย คือ การขยายตลาดสู่ทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคกลาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Growth Together

ผ่านการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่อยู่อาศัย นำนวัตกรรมมาประยุกต์เพิ่มความสะดวกในโครงการบ้านของบริทาเนีย เช่น การพัฒนาแผงหลังคาโซลาร์เซลล์, EV Charger สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า

นำร่องทดลองใช้พื้นที่ส่วนกลาง อาคารสโมสร ของบ้านภายใต้แบรนด์แกรนด์ บริทาเนีย เพื่อดูผลตอบรับก่อนขยายการติดตั้งไปยังพื้นที่หรือบ้านในแบรนด์อื่น ๆ

Advertisment

พร้อมกันนี้ บริทาเนียได้มีนโยบายบริการหลังการขายแก่ลูกบ้านตลอดช่วงอายุการอยู่อาศัย เช่น ประกันโครงสร้างบ้าน 5 ปี การแจ้งซ่อมและติดตามสถานะผ่าน Mobile Application Britania Connect เป็นต้น

นางศุภลักษณ์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทมีบ้านแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,250 ล้านบาท

ส่วนในปี 2565 ได้วางแผนเชิงรุกเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มเป็น 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท จากเดิมจะเปิดตัว 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,800 ล้านบาท

ด้วยการรุกพัฒนาโครงการในจังหวัดหัวเมืองเพิ่มขึ้น เน้นจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ จำนวนประชากรและความต้องการที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตแก่คนในพื้นที่ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นับเป็นครั้งแรกของบริษัทที่เปิดโครงการพื้นที่ดังกล่าวภาคตะวันออกและภาคกลาง โดย 12 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 6 โครงการ และต่างจังหวัด 6 โครงการ ได้แก่

1.โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ – นครอินทร์
2.บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17
3.บริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17
4.แกรนด์บริทาเนีย บางนา กม.35
5.บริทาเนีย อมตะ-พานทอง
6.แกรนด์บริทาเนีย คูคต
7.บริทาเนีย อุดร-ดุษฎี 8. บริทาเนีย ระยอง
9.บริทาเนีย วงแหวน-ปิ่นเกล้า
10.บริทาเนีย ขอนแก่น
11.บริทาเนีย โฮม อยุธยา
12.บริทาเนีย ทาวน์ อยุธยา

จากแผนพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) ในปี 2565 ที่ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนที่มียอดขาย 8,300 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดรับรู้รายได้ 7,250 ล้านบาท โดยมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ ณ สิ้นปี 2564 แล้ว 1,204 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้วางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น การเจรจาล็อกราคาวัสดุก่อสร้างกับพันธมิตร, เพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ เป็นต้น เพื่อลดผลกระทบจากการปรับราคาที่อยู่อาศัย

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานอำนวยการ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเทรนด์ความยั่งยืน ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองเทรนด์ดังกล่าว

โดยเฉพาะในช่วงที่ยังมีการระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่บ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านแนวราบที่มีความปลอดภัย สุขอนามัยที่ดี ใช้ชีวิตสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

นอกจากนี้ ยังต้องออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด Universal Design เพื่อให้คนทุกวัยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัว เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป 20% ของประชากรทั้งหมด ถือว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้วในปีนี้

ทั้งนี้ การพัฒนาแบบบ้านใหม่ในปี 2565 บริษัทได้ศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย (Human Centric) และนำมาพัฒนาแบบบ้านรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการใช้พื้นที่ร่วมกันของสมาชิก ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งและต่อเชื่อมกัน (Open Space Plan)

โดยออกแบบพื้นที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหน้าบ้าน (Pocket Garden) สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนที่ 4 รองรับผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นห้องทำงาน ส่วนห้องนอนชั้น 2 ทุกห้องจะมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในแบบฉบับบ้านบริทาเนีย เน้นการออกแบบทรงหน้าจั่ว English Gable เพื่อให้เกิดภาพจำและเสริมความโมเดิร์นรองรับความเป็นคนรุ่นใหม่