ความเคลื่อนไหวอย่างเคร่งครัดในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นที่กำลังเกิดขึ้นอย่างดุเดือดในประเทศมาเลเซีย ภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรี มหาธีร์ โมฮัมเหม็ด วัย 92 ปี ผู้นำอาวุโสที่สุดของโลก นับว่าปรากฎให้เห็นอย่างถี่ๆ ไล่มาตั้งแต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ 3 ตำแหน่ง ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงการประกาศห้ามให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค และครอบครัว เดินทางออกนอกประเทศ และล่าสุด นายกฯ มหาธีร์ เดินทางปฏิรูปกฎหมายต่อต้านข่าวปลอมที่เพิ่งผ่านร่างกฎหมานไปเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
“ผมจะจัดตั้งผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามคอร์รัปชัน (MACC) ใหม่ และทำการสอบสวนคดีอาญาในรัฐบาลชุดเก่าทั้งหมด ส่วนกฎหมายต่อต้านข่าวลวง (fake news) จะทบทวนปรับแก้เนื้อหา แต่จะไม่ยกเลิก และจะคงส่วนที่จำกัดเสรีภาพสื่อไว้” คำกล่าวหนึ่งของ ผู้นำดินแดนเสือเหลือง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะที่นายกฯ มหาธีร์ ให้สัมภาษณ์กับ “เดอะ วอลล์ สตรีท เจอนัล” ในระหว่างงาน “The Wall Street Journal CEO Council” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า “ผมมุ่งมั่นที่จะฟ้องร้องและดำเนินคดีต่อการทุจริตที่เกิดขึ้นในสมัยของนายนาจิบ ราซัค ทั้งหมด โดยเฉพาะจัดการกับเงินจำนวนหนึ่งที่ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิบอย่างสาสม โดยจะไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆ กับนายนาจิบ” พร้อมยืนยันว่า จะดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำประเทศเพียง 1 หรือ 2 ปีเท่านั้น ก่อนส่งไม้ต่อให้กับ “อันวาร์ อิบราฮิม” อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ถูกจำคุกด้วยข้อหาประพฤติผิดทางเพศ
ทั้งนี้ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ยืนยันว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม จะได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระในวันนี้ (15 พ.ค.) หรือวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) ด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษจากพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย โดยนายกฯ มหาธีร์ ผู้ซึ่งเป็นคู่อริเก่า เป็นคนเรียกร้องและดำเนินทุกขั้นตอน