ที่ปรึกษารัฐยะไข่ส่งรายงานฉบับสุดท้าย เผยยังพร้อมร่วมแก้ปัญหาในฐานะส่วนตัว

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 สิงหาคมที่โรงแรม ฮิลตัน กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มีการแถลงข่าวการส่งรายงานฉบับสุดท้ายของคณะที่ปรึกษารัฐยะไข่ให้แก่ นาง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และดร. วิน มัต อาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคมการบรรเทาทุกข์และการตั้งถิ่นฐาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ อีกทั้งมีการกล่าวสุนทรพจน์โดย ศ. (พิเศษ) ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานคณะที่ปรึกษาการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ

ศ. (พิเศษ) ดร. สุรเกียรติ์ กล่าวว่า ยินดีที่ข้อเสนอของคณะที่ปรึกษาฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเมียนมาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอที่นำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง (Independent Commission of Enquiry) และขอชื่นชมคณะกรรมการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ สำหรับความพยายามอย่างต่อเนื่อง และความก้าวหน้าในการนาข้อเสนอของคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนำของนายโคฟี อันนัน ไปปฏิบัติ อย่างไรก็ดี คณะที่ปรึกษาฯ ตระหนักว่ายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางกลับประเทศและการกลับมาตั้งถิ่นฐานของผู้ลี้ภัย ในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว คณะที่ปรึกษาฯ ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินการ หรือให้คำแนะนาที่ซ้อนทับกับงานของคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนำของนายโคฟี อันนัน และจำกัดภารกิจของคณะที่ปรึกษาฯ ให้อยู่ในเฉพาะเรื่องที่สาคัญบางเรื่องเท่านั้น ที่ผ่านมาคณะที่ปรึกษาฯ ได้ดำเนินการในฐานะเวทีสาหรับรับฟังปัญหาและให้คำปรึกษา โดยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างกว้างขวางกับคู่สนทนาที่หลากหลาย เช่น ประชาชนในพื้นที่รัฐยะไข่ ผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่างๆ คณะทูต องค์กรต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ องค์การในระดับระหว่างประเทศที่ไม่ใช่รัฐบาล และสื่อ การสนทนาเหล่านี้นำมาซึ่งข้อมูลอันมีคุณค่าสาหรับคณะที่ปรึกษาฯ ในการให้คำปรึกษาในระดับสูงต่อรัฐบาลเมียนมาร์

ศ. (พิเศษ) ดร. สุรเกียรติ์ กล่าวอีกว่า คณะที่ปรึกษาฯ ยังได้ช่วยทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสะพานเพื่อเชื่อมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์และประชาคมระหว่างประเทศ และมีความยินดีที่ได้ทราบว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ซึ่งเป็นเวลาที่คณะที่ปรึกษาฯ เริ่มดำเนินภารกิจเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์ องค์การสหประชาชาติได้พัฒนาขึ้น ดังจะเห็นตัวอย่างได้จาก 1. การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และโครงการการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยและมีเกียรติของผู้ลี้ภัย และ 2. การเดินทางเยือนเมียนมาร์ของผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติประจำเมียนมาร์ ทั้งนี้ ข้อเสนอบางประการของคณะที่ปรึกษาฯ เป็นสิ่งที่เมียนมาร์ยังต้องดำเนินการต่อไป เช่น การจัดให้มีการสานเสวนาระหว่างชุมชน โครงการนำร่องสาหรับชุมชนต้นแบบ และการให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพในรัฐยะไข่ ทั้งนี้กรรมการในคณะที่ปรึกษาฯ ยังคงยินดีที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าวต่อไปในนามส่วนตัว

“ข้อแนะนำของคณะที่ปรึกษาทั้งหมด ทางรัฐบาลเมียนมาร์ได้นำไปปฏิบัติหมดแล้วโดยเฉพาะการลงนามกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเพื่อรับผู้อพยพกลับคืนรัฐยะไข่ การรับผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือกับนานาชาติ และการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดในรัฐยะไข่ ซึ่งกลไกเหล่านี้กำลังจะเริ่มทำหน้าที่ด้านต่างๆที่สังคมระหว่างประเทศเรียกร้องมาตลอดปี นอกจากนี้รัฐบาลเมียนม่าร์ได้นำข้อเสนอกว่า60ข้อจาก88ข้อที่คณะกรรมาธิการของนายโคฟี่ อานันเสนอไว้ไปปฏิบัติ และได้นำข้อเสนอของคณะที่ปรึกษาเรื่องการเสวนาลดความขัดแย้งในชุมชนกับโครงการนำร่องสำหรับชุมชนต้นแบบเพื่อให้การนำข้อเสนอทั้ง88ข้อของนายโคหี่ อานันไปปฏิบัติแล้วเกิดความยั่งยืน อย่างไรก็ตามคณะที่ปรึกษาฯได้แจ้งนาง ออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ เมียนม่าร์ว่าสมาชิกคณะที่ปรึกษายังยินดีจะช่วยเหลือเมียนม่าร์ในข้อเสนอแนะต่างๆที่เป็นระยะยาวในฐานะส่วนตัวต่อไป” ศ. (พิเศษ) ดร. สุรเกียรติ์ กล่าว

สุนทรพจน์ของ ศ. (พิเศษ) ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานคณะที่ปรึกษาการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ

ในโอกาสส่งมอบรายงานฉบับสุดท้ายให้แก่คณะกรรมการนาข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ
ณ โรงแรม ฮิลตัน กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ วันที่ 16 สิงหาคม 2561
ดร. วิน มัต อาย ในฐานะประธานคณะกรรมการนาข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ
สมาชิกผู้ทรงเกียรติ คณะกรรมการนาข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ

ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้คณะที่ปรึกษาฯ เข้าพบท่านในวันนี้ ซึ่งเป็นเวลาเพียงสี่สัปดาห์หลังจากการพบกันครั้งก่อน ณ กรุงเนปิดอว์แห่งนี้ ในขณะที่กาลังจะครบรอบหนึ่งปีของการนำเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนาของนายโคฟี อันนัน คณะที่ปรึกษาฯ ได้มาพบท่านในวันนี้เพื่อส่งมอบรายงานฉบับสุดท้าย รวมถึงข้อเสนอแนะชุดสุดท้ายให้ท่านพิจารณา

นับตั้งแต่การสนทนากันครั้งแรกๆ ในเดือนกันยายน 2560 ซึ่งนาไปสู่การก่อตั้งคณะที่ปรึกษาฯ ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน คณะที่ปรึกษาฯ ตระหนักว่าภารกิจของเรา คือ การให้คำปรึกษาในระดับสูงต่อรัฐบาลเมียนมาร์เกี่ยวกับวิถีทางที่ดีที่สุดที่จะนาข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนำของนายโคฟี อันนัน ไปปฏิบัติ คณะที่ปรึกษาฯ มิได้ประสงค์ที่จะดำเนินกิจกรรม หรือให้คำแนะนำที่ทับซ้อนกับคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนำของนายโคฟี อันนัน และคณะที่ปรึกษาฯ ก็ไม่ได้มีขอบอานาจและเครื่องมือที่จะดำเนินการดังกล่าว

ในทางกลับกัน คณะที่ปรึกษาฯ ตระหนักว่าคณะที่ปรึกษาฯ ควรให้ความสนใจกับภารกิจสำคัญบางประการซึ่งควรจะได้รับความสนใจอย่างเร่งด่วนและสามารถนามาซึ่งผลสาเร็จต่างๆ ได้ ในการดำเนินการดังกล่าว คณะที่ปรึกษาฯ ได้สนทนาในหลายวาระและใช้วิธีการทางการทูตแบบไม่เป็นข่าว (quiet diplomacy) กับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่างๆ คณะทูต องค์กรต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ องค์การในระดับระหว่างประเทศที่ไม่ใช่รัฐบาล และสื่อมวลชน เพื่อนำไปประกอบการทำข้อเสนอแนะของคณะที่ปรึกษาฯ ให้แก่คณะกรรมการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ

คณะที่ปรึกษาฯ ยังตระหนักว่าภารกิจของคณะที่ปรึกษาฯ นั้นเปรียบเสมือนผู้สร้างสะพานเชื่อมเพื่อลดช่องว่างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างเมียนมาร์และประชาคมระหว่างประเทศ คณะที่ปรึกษาฯ ยินดีที่ได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมาร์และองค์กรต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติ ดังจะเห็นได้จากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์ สานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และโครงการการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะมีส่วนสาคัญอย่างมากต่อการเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรีของผู้ลี้ภัย การรับการเยือนของนางคริสติน เบอร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติประจำเมียนมาร์ก็เป็นหนึ่งพัฒนาการในทางบวกเช่นเดียวกัน

คณะที่ปรึกษาฯ ยินดีที่ข้อเสนอแนะของคณะที่ปรึกษาฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเมียนมาร์ และข้อเสนอแนะหลายๆ ประการก็ถูกนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอแนะที่นำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง (Independent Commission of Enquiry) ส่วนข้อเสนอแนะอื่นก็อยู่ระหว่างการนำไปปฏิบัติ เช่น การจัดให้มีการสานเสวนาระหว่างชุมชน โครงการนำร่องสาหรับชุมชนต้นแบบ และการให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพในรัฐยะไข่

คณะที่ปรึกษาฯ ชื่นชมคณะกรรมการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติที่มีท่านรัฐมนตรีวิน มัต อาย เป็นประธาน สาหรับความพยายามอย่างต่อเนื่อง และความก้าวหน้าในการนาข้อเสนอของคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเรื่องรัฐยะไข่ภายใต้การนาของนายโคฟี อันนัน ไปปฏิบัติ อย่างไรก็ดีคณะที่ปรึกษาฯ ตระหนักว่ายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางกลับประเทศและการกลับมาตั้งถิ่นฐานของผู้ลี้ภัย ในระยะยาว ภารกิจที่ต้องดำเนินการต่อไป คือ การสร้างความสงบสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในรัฐยะไข่

สุดท้ายนี้ ด้วยเหตุที่คณะที่ปรึกษาฯ ได้ดาเนินภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จสิ้นแล้ว กระผมในฐานะตัวแทนของคณะที่ปรึกษาฯ ขออวยพรให้ท่านและคณะกรรมการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติประสบความสาเร็จในการนำข้อเสนอเรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติ และขอให้โปรดมั่นใจว่าคณะที่ปรึกษาฯ จะยังคงให้การสนับสนุนในความพยายามของท่าน ทั้งนี้กระผมยินดีที่จะเรียนให้ทราบว่ากรรมการในคณะที่ปรึกษาฯ ยังคงยินดีที่จะร่วมงานกับเมียนมาร์ในการแก้ไขสถานการณ์ในรัฐยะไข่ต่อไปในนามส่วนตัว.

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์