“จีน” วิจารณ์มติยูเอ็น ประณามเมียนมา ไม่ช่วยเเก้ปัญหา “โรฮีนจา” ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น

AFP PHOTO / Ed JONES

รัฐบาลจีน วิจารณ์มติยูเอ็นที่ชี้ว่าการละเมิดสิทธิชาวโรฮีนจาในเมียนมา คือการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาตินั้น ไม่สามารถช่วยผ่อนคลายหรือแก้ปัญหาได้

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า นายเกง ฉวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เเถลงว่ามติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เห็นชอบให้ประณามเมียนมาว่าก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติกรณีชาวโรฮีนจา ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เเละอาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ซึ่งจะส่งผลลบต่อข้อตกลงระหว่างเมียนมาเเละบังคลาเทศ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ในเรื่องการส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากลับบ้าน ภายใน 2 เดือน

ทั้งนี้ จีนเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่คัดค้านร่างมติ ที่ผ่านการโหวตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกของยูเอ็นเอชอาร์ซี 33 ประเทศ จากทั้งหมด 47 ประเทศร่วมสนับสนุน

โดยในระหว่างการประชุมวาระพิเศษดังกล่าว เจ้าชายเซอิด ราอัด อัล-ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็นเอชอาร์ซี ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าอาจมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามกองทัพเมียนมายังคงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้เสนอเเผนการแก้วิกฤตโรฮีนจา ระหว่างภารกิจเยือนบังคลาเทศเเละเมียนมา โดยเเบ่งเป็น 3 ระยะ ได้เเก่ 1) เริ่มจากจากหยุดยิงในรัฐยะไข่ เพื่อให้เกิดความสงบ ผู้คนจะไม่ได้อพยพเพิ่ม 2) เรียกร้องให้ประชาคมโลก ผลักดันบังคลาเทศเเละเมียนมา เจรจาหาทางออกที่เหมาะสม หลังจากบรรลุการส่งผู้อพยพกลับบ้านในเบื้องต้นเเล้ว เเละ 3) ร่วมหาทางออกระยะยาว เพื่อเยียวยาเเละบรรเทาความยากจน

สำหรับการปราบกบฏในรัฐยะไข่ เริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวโรฮีนจาที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ต้องอพยพข้ามพรมเเดนลี้ภัยไปยังบังคลาเทศกว่า 620,000 คน ก่อให้เกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาเเห่งรัฐเมียนมา ผู้เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพว่าเพิกเฉยต่อวิกฤตความรุนเเรงนี้