ว่าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่เรียกร้องความมั่นคงและเอกภาพ

นายริชี ซูนัค เรียกร้องความเป็นเอกภาพเพื่อเผชิญหน้ากับ “ความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่” หลังชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม และขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนต่อไป

นายซูนัค ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. พรรคคอนเซอร์เวทีฟ หรือพรรคอนุรักษ์นิยมท่วมท้น ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีต่อจากนางลิซ ทรัสส์ หลังอยู่ในตำแหน่งเพียง 44 วัน ทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีเชื้อสายเอเชียคนแรกของสหราชอาณาจักร แม้ว่า ช่วงต้นเดือน ก.ย. เขาจะพ่ายแพ้ในการชิงชัยตำแหน่งดังกล่าวต่อนางทรัสส์ หลังนายบอริส จอห์นสัน ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือน ก.ค.

PA Media

ที่มาของภาพ, PA Media

ถ้อยปราศรัยแรกความยาว 2 นาที หลังขึ้นรับตำแหน่ง นายซูนัค ประกาศว่า ภารกิจสำคัญแรก จะสร้างเอกภาพระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมและประชาชนทั่วสหราชอาณาจักร

“สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง แต่เรากำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งยวด… เราต้องการความมั่นคง และเอกภาพ และผมจะถือว่าภารกิจสำคัญแรก คือ การทำให้พรรคของเราและประเทศชาติเป็นปึกแผ่นกัน”

นายซูนัคยังขอบคุณนายกรัฐมนตรีทรัสส์ ที่ปกครองประเทศในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่งยวด แม้เธอจะดำรงตำแหน่งได้เพียง 44 วันก็ตาม

นายซูนัค จะเป็นนายกรัฐมนตรีเชื้อสายบริติช-เอเชียคนแรกของสหราชอาณาจักร และถือว่าอายุน้อยที่สุดในรอบ 200 ปี เขามีกำหนดจะขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม

วันนี้ นางทรัสส์มีกำหนดจะประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปราศรัยหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีตรี ก่อนเดินทางไปพระราชวังบักกิงแฮม เพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 เป็นครั้งสุดท้าย

ต่อจากนั้น นายซูนัคจะเข้าเฝ้ากษัตริย์อังกฤษ เพื่อรับโปรดเกล้าให้จัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมาที่ถนนดาวนิงสตรีท เพื่อปราศรัยในเวลา 11.35 น. ตามเวลาในสหราชอาณาจักร หรือช่วยเย็นเวลาไทย

PA

ที่มาของภาพ, PA Media

นายซูนัคถือเป็นนายกรัฐมนตรีพรรคอนุรักษ์นิยมคนที่ 3 นับแต่พรรคชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2019 ทำให้พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะสลับเปลี่ยนนายกฯ บ่อยเกินไป

ส.ส. พรรคอนุรักษ์นิยม อ้างคำพูดของนายซูนัค ที่ยอมรับว่า ช่วงเวลาต่อจากนี้จะเป็นช่วงที่ยากลำบาก แต่ปฏิเสธว่า จะไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าแน่นอน แม้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะโต้เถียงว่า นายซูนัคไม่มีฉันทามติของประชาชนตามหลักประชาธิปไตย เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม

นายซูนัค เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ตามหลังนางเทรีซา เมย์ นายบอริส จอห์นสัน และนางทรัสส์ ที่ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี นางเมย์ และนายจอห์นสัน เคยชนะการเลือกตั้งทั่วไปมาแล้ว ในปี 2017 และปี 2019 ตามลำดับ

ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปจะยังไม่มีไป อย่างช้าสุดจนกว่าจะถึงเดือน ม.ค. ปี 2025 และตามหลักแล้ว นายซูนัคไม่มีพันธะใด ๆ เพื่อประกาศจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าตามระบบการเลือกตั้งรัฐสภาสหราชอาณาจักร

เส้นทางการเมือง

นายซูนัคเป็น ส.ส. สมัยแรกเมื่อปี 2015 ในเขตเลือกตั้งริชมอนด์ของมณฑลนอร์ทยอร์กเชียร์ โดยไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชนมากนัก

ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็น รมช.คลัง ในรัฐบาลของนางเทรีซา เมย์ และดำรงตำแหน่งอีกครั้งในรัฐบาลนายบอริส จอห์นสัน เมื่อเดือน ก.ค. 2019 เพื่อตอบแทนที่เขาให้การสนับสนุนนายจอห์นสันอย่างแข็งขัน

Reuters

ที่มาของภาพ, Reuters

กระทั่งเดือน ก.พ. 2020 เขาได้รับการขยับชั้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากนายซาจิด จาวิด ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวเพราะปัญหาความขัดแย้งกับที่ปรึกษาของนายจอห์นสัน แต่แล้ว นายซูนัคก็ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า แนวทางการบริหารเศรษฐกิจของตัวเองแตกต่างจากของนายกฯ จอห์นสันมากเกินไป ในขณะที่นายจอห์นสันเผชิญมรสุมเรื่องการโกหกบ่อยครั้งต่อสภา

นอกจากบทบาทในสภาและในรัฐบาล นายซูนัคมีส่วนสำคัญในการรณรงค์ให้ประชาชนลงมติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และลงมติสนับสนุนข้อตกลงเบร็กซิทของนางเมย์ทั้ง 3 ครั้งที่ถูกนำเข้าสภา

พื้นฐานครอบครัว

นายซูนัคเกิดที่เมืองเซาแธมป์ตัน สหราชอาณาจักร ในปี 1980 โดยพ่อแม่ของเขาซึ่งเป็นคนเชื้อสายอินเดีย อพยพมาจากแอฟริกาตะวันออก

พ่อของเขาเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ส่วนแม่มีร้านขายยาเป็นของตัวเอง

เขาเข้าเรียนที่วิทยาลัยวินเชสเตอร์ (Winchester College) โรงเรียนเอกชนอายุกว่า 600 ปี และทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเซาแธมป์ตันช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน จากนั้นเขาได้ศึกษาต่อด้านปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

ในช่วงที่เขาเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เขาได้พบกับ อัคชาตา มูรตี บุตรสาวของนารายณ์ มูรตี เศรษฐีพันล้านชาวอินเดีย และผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านให้บริการไอที ซึ่งกลายเป็นศรีภรรยาของเขาในเวลาต่อมา โดยทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน

นายซูนัค และภริยา

ที่มาของภาพ, PA Media

ปี 2001-2004 นายซูนัคเป็นนักวิเคราะห์ในวานิชธนกิจ โกลด์แมนแซคส์ และต่อมาได้ตำรงตำแหน่ง หุ้นส่วนในเฮดจ์ฟันด์ 2 แห่ง

เมื่อเปลี่ยนเส้นทางชีวิตเข้าสู่โลกการเมือง จึงมีการคาดการณ์กันว่านายซูนัคน่าจะเป็นหนึ่งใน ส.ส. ที่รวยที่สุด แต่เขาไม่เคยพูดถึงความมั่งคั่งของตัวเองอย่างเปิดเผย

ในระหว่างให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อปี 2019 นายซูนัคเล่าถึงภูมิหลังของตัวเองไว้ว่า “พ่อแม่ของผมอพยพมาที่นี่ คุณมีคนรุ่นที่เกิดที่นี่ พ่อแม่ของพวกเขาไม่ได้เกิดที่นี่ พวกเขามาประเทศนี้เพื่อมาสร้างชีวิต”

นักการเมืองรายนี้นับถือศาสนาฮินดู ไม่ดื่มเหล้า และไปวัดทุกสุดสัปดาห์

เขากล่าวว่า เขาโชคดีที่ไม่ได้เผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติมากนักในช่วงที่เติบโต แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่เขาจำได้ไม่เคยลืม

“ผมออกไปข้างนอกกับน้องสาวและน้องชาย ผมน่าจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นกลาง ๆ เราไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง และผมก็กำลังดูแลน้อง ๆ อยู่ มีคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลพูดคำที่หยาบคายออกมาคือ คำที่ขึ้นต้นด้วยตัวพี (ตัว P มาจากครับว่า Paki ซึ่งในอังกฤษเป็นคำที่ใช้เหยียดคนที่มาจากเอเชียใต้) นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์เช่นนี้” นายสุนัคกล่าวกับบีบีซีเมื่อปี 2019

…….

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว