สถานีตำรวจลับของจีนที่มีกว่า 100 แห่งทั่วโลกคืออะไร ทำไมชาติตะวันตกถึงต่อต้าน

Getty Images ข้อมูลระบุว่า จีนมีสถานีตำรวจลับกว่า 100 แห่งทั่วโลก แต่ยังไม่พบในไทย

อัยการสหรัฐฯ ได้จับกุมชายสองคนในนครนิวยอร์ก ฐานตั้ง “สถานีตำรวจลับ” ในย่านไชนาทาวน์ของแมนฮัตตัน

อัยการเปิดเผยว่า หลู เจียนหวัง วัย 61 ปี และ เฉิน จินปิง วัย 59 ถูกแจ้งข้อหาทำการสมรู้ร่วมคิดเพื่อปฏิบัติตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนโดยไม่ได้แจ้งต่อทางการสหรัฐฯ และในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

พวกเขามีกำหนดขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรูคลิน ภายในวันนี้ (18 เม.ย.)

รัฐบาลจีนปฏิเสธไม่ได้จัดตั้งสถานีตำรวจเช่นนี้ โดยอ้างว่า เป็น “ศูนย์บริการ” สำหรับชาวจีนโพ้นทะเล

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า “นายหลิวแห่งบร็องซ์” และ “นายเฉินแห่งแมนฮัตตัน” ร่วมกันจัดตั้งสถานีตำรวจสำหรับชาวจีนในสหรัฐฯ ตามคำสั่งของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของรัฐบาลจีน

Advertisment

สถานีตำรวจลับแห่งนี้ ถูกปิดลงช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อปี 2022 หลังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถูกสำนักสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ สืบสวน

“คดีนี้เปิดโปงถึงการกระทำของรัฐบาลจีนที่ละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับใจกลางนครนิวยอร์ก” บรีออน เพียซ อัยการในบรูคลิน กล่าว

สถานีตำรวจลับจีน คืออะไร ?

รัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศเชื่อว่า จีนมีสถานีตำรวจลับอย่างน้อย 100 แห่งใน 53 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์

“รัฐบาลจีนกระทำการล้ำเส้น จนยากที่จะยอมรับได้ เราจะพิทักษ์เสรีภาพของประชาชนที่อาศัยในประเทศของเรา จากภัยคุกคามจากการกดขี่ของเผด็จการ” ผู้ช่วยอัยการสูงสุด นายแมทธิว โอลเซน จากแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าว

Advertisment

ตามข้อมูลของอัยการสหรัฐฯ นายหลู เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายของจีน และได้รับการชักชวนให้มาช่วยรัฐบาลจีน ดำเนิน “การกระทำที่กดขี่” ในสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่ปี 2015 นั่นรวมถึงการคุกคามผู้เห็นต่างที่อาศัยในสหรัฐฯ ด้วย

นายหลู ออกมาจากศาลบรูคลิน

Reuters
นายหลู ออกมาจากศาลบรูคลิน

เมื่อปี 2018 นายหลูเผชิญข้อกล่าวหาว่า พยายามผลักดันให้ชาวจีนที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ กลับไปประเทศจีน รวมถึงการรังควาน ข่มขู่ คุกคาม บุคคลและครอบครัวที่อาศัยในจีนและสหรัฐฯ ไม่เพียงเท่านั้น อัยการสหรัฐฯ ระบุว่า นายหลูถูกชักชวนจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน เพื่อควานหานักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนประชาธิปไตยในจีน อย่างไรก็ดี นายหลูปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้

ทางการสหรัฐฯ ได้สอบปากคำนายหลู และนายเฉิน เมื่อเดือน ต.ค. 2022 หลังเอฟบีไอดำเนินการตรวจค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นสถานีตำรวจลับ โดยมีการยึดโทรศัพท์มือถือไป

นายหลูและนายเฉินยอมรับว่า ได้ลบข้อมูลการติดต่อกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ซึ่งอัยการสหรัฐฯ เชื่อว่า อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการลับในแผ่นดินสหรัฐฯ

หากศาลตัดสินว่านายหลูและนายเฉินมีความผิดจริง พวกเขาอาจต้องโทษจำคุกถึง 25 ปี

จีนชี้ เป็นเพียง “ศูนย์บริการ”

สถานทูตจีนในสหรัฐฯ และแคนาดา ระบุว่า สถานที่ที่เป็น “ศูนย์บริการโพ้นทะเล” ถูกเปิดขึ้นในช่วงที่โลกเผชิญการระบาดของโควิด เป้าประสงค์ของสถานีเหล่านี้ คือ สนับสนุนชาวจีนที่อยู่ในต่างประเทศ อาทิ การต่อใบขับขี่ และปัญหาอื่น ๆ

แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า จีนใช้สถานีโพ้นทะเลเหล่านี้ เพื่อข่มขู่และสังเกตการณ์ชาวจีนที่อาศัยในต่างประเทศ

ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลจีนได้ลงนามในข้อตกลงทวิภาคีด้านการตรวจการของตำรวจในต่างประเทศ กับรัฐบาลหลายประเทศ นับแต่ปี 2015 รวมถึงประเทศอิตาลีด้วย

ช่วงปี 2016-2018 ตำรวจอิตาลีได้ดำเนินการตรวจการร่วมกับตำรวจจีนหลายครั้ง รวมถึงในกรุงโรม และเมืองมิลาน ก่อนขยายไปยังอีกหลายเมือง

เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ไม่แสวงผลกำไร ก่อตั้งขึ้นและมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสเปน เพื่อสังเกตการณ์กรณีบังคับสูญหายในจีน ระบุว่า พบหลักฐานว่ามีการติดระบบกล้องวงจรปิดตามชุมชนของชาวจีน ที่อ้างว่า “เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

นายหลูในศาล

Reuters
นายหลูในศาล
.

Saftguard Defender
ประเทศที่มีสถานีตำรวจลับของจีนอยู่

ในปี 2016 ตำรวจอิตาลีระบุว่า การร่วมมือกับตำรวจจีน จะนำไปสู่ “ความร่วมมือในระดับสากลมากขึ้น รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลและทรัพยากร เพื่อจัดการกับกลุ่มอาชญากรและก่อการร้าย ที่มุ่งทำร้ายประเทศต่าง ๆ” และในตอนนี้ เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ ตรวจพบว่า มีสถานีตำรวจลับจีนอยู่ในอิตาลี 11 แห่ง รวมถึงในเมืองเวนิส และปราโต อีกด้วย

สถานีตำรวจจีนแห่งหนึ่งในกรุงโรม ถึงกับจัดพิธีเปิดโดยมีเจ้าหน้าที่อิตาลีเข้าร่วมด้วยในปี 2018 อ้างอิงจากวิดีโอที่โพสต์บนเว็บไซต์ของจีน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างตำรวจสองประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า จีนได้ดำเนินข้อตกลงในลักษณะคล้ายกันกับประเทศโครเอเชีย และเซอร์เบีย ระหว่างปี 2018-2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน

ตามข้อมูลของ เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ สถานีตำรวจลับ (และไม่ลับในบางประเทศ) ตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในทวีปเอเชียด้วย ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา (2 แห่ง) ญี่ปุ่น (1) เกาหลีใต้ (1) เมียนมา (2) บรูไนดารุสซาลาม (1) แต่ยังตรวจไม่พบว่ามีในประเทศไทยหรือไม่

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว