โศกนาฏกรรม 89 ศพ จากลัทธิอดอาหารตาย ก่อนวันสิ้นโลกในเคนยา

EPA

ณ ใจกลางป่าลึกแห่งหนึ่งไม่ไกลจากชายฝั่งของประเทศเคนยา กองดินจำนวนมากที่เพิ่งถูกฝังกลบมาหมาด ๆ ถูกปักไว้ด้วยไม้กางเขน กำลังรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์

หลุมฝังศพ 14 หลุม ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง โดยมี ฮุสเซน คาลิด เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิมนุษยชนฮากิ แอฟริกา (Haki Africa) ผู้ใช้เวลา 4 วันที่ผ่านมา เป็นสักขีพยานการขุดร่างศพมนุษย์นับสิบร่างขึ้นมาจากหลุม

“กลิ่นศพพวกนี้เหม็นจนทนแทบไม่ไหว” เขาบอกบีบีซี

ร่างของผู้เสียชีวิตในหลุมศพเหล่านี้ คือ สมาชิกของ “คริสตจักรกู๊ดนิวส์อินเตอร์เนชันแนล” เชื่อว่าพวกเขาถูกชักจูงให้อดอาหารด้วยการโน้มน้าวว่า เพื่อที่จะได้ขึ้นสวรรค์ก่อนการมาถึงของวันสิ้นโลก

เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิมนุษยชน ชื่อ ฮากิ แอฟริกา เป็นผู้ที่พาเจ้าหน้าที่มายังพื้นที่ของหลุมฝังศพ หลังจากได้รับการแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ลานฝังศพอยู่ในบริเวณที่ค่อนข้างมิดชิดในเขตป่าชาคาโฮลา (Shakahola) การเข้าไปยังพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องถางต้นไม้บางส่วนเพื่อให้รถยนต์เข้าไปได้

ร่างผู้เสียชีวิตที่ขุดพบล่าสุดมีจำนวน 89 ศพ แต่คาดว่าจำนวนที่แท้จริงจะมากกว่านี้ เนื่องจากสภากาชาดในเคนยา ระบุว่า มีรายงานผู้สูญหาย 112 คน

reuters

Reuters

เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิมนุษยชน ได้รับเบาะแสมาว่า มีสถานที่ที่ประชาชนผู้นับถือลัทธิเข้าไปรวมตัวสวดภาวนา เขาได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการค้นหาและช่วยชีวิต ซึ่งบริเวณนั้นกินพื้นที่กว้างกว่า 3.2 ตารางกิโลเมตร และมีข้อมูลว่า บริเวณดังกล่าว มีสุสานหลุมศพประมาณ 60 แห่ง แต่มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่เพิ่งได้รับการตรวจสอบ

ขณะเริ่มขุดศพขึ้นมาชันสูตร เริ่มมีชาวบ้านหลายคนเข้ามายังที่เกิดเหตุเพื่อบอกเล่ารายละเอียดของญาติ ๆ ที่สูญหายไป ชายรายหนึ่งแจ้งว่า ลูกชาย 3 คนของเขา ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 14, 17 และ 21 ปี ถูกน้องชายพาไปเข้าร่วมกับโบสถ์แห่งนี้ และเขาหวั่นวิตกว่า ลูก ๆ ทั้งหมดจะเสียชีวิตไปแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า พบผู้รอดชีวิต 29 คน แต่ดูเหมือนว่าบางคนไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ จึงเป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขามีความเชื่อในเรื่องวันสิ้นโลกที่ถูกชักจูงโดยผู้นำลัทธิ

เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮากิ แอฟริกา บอกว่าเขาบังเอิญได้เจอผู้หญิงวัยกว่า 20 ปี ที่ร่างกายอิดโรยอย่างมาก ดวงตากลวงโบ๋ แต่เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือ

“เมื่อเราจะเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลเธอด้วยการให้จิบน้ำที่ผสมกลูโคส เธอกลับปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง เธอปิดปากสนิทและแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ” นายคาลิด กล่าว พร้อมระบุว่า ขณะนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ถูกนำตัวไปดูแลรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิฯ รายนี้ ยังได้เจอกับชายวัย 40 กว่า ซึ่งยังสื่อสารพูดคุยได้ ชายรายนี้บอกว่าไม่ต้องการการช่วยชีวิตใด ๆ และเขารู้ตัวว่ากำลังทำอะไร พร้อมร้องขอให้ปล่อยให้เขาอยู่แต่เพียงลำพัง

“เขายังเรียกพวกเราว่า เป็นศัตรูที่ขัดขวางไม่ให้เขาขึ้นสู่สวรรค์” นายคาลิด กล่าว และบอกว่าชายรายนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วเช่นกัน

reuters

Reuters
กลุ่มญาติของผู้ที่นับถือลัทธิอดอาหารกับคริสตจักร รวมตัวติดตามหาญาติของพวกเขา

ด้านศูนย์ช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนของชุมชนมาลินดีของเคนยา ซึ่งให้ความช่วยเหลือเรื่องการขุดศพของเหยื่อ ระบุว่า น่าจะมีร่างผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นราว 150 ราย เจ้าหน้าที่ของศูนย์บอกด้วยว่า ได้รับแจ้งจากบุคคลที่ต้องการเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะต้องการช่วยชีวิตลูก ๆ 3 คนของเขา

“มันโชคร้ายมาก เพราะเราช่วยได้แค่เด็กถูกเชือกมัดไว้ในบ้านเท่านั้น” วิกเตอร์ เกาโด เจ้าหน้าที่ศูนย์ระบุ พร้อมบอกว่า “เด็กคนนี้น่าจะมีอายุ 6 ขวบ ส่วนพี่น้องชายหญิงอีก 2 คน ได้เสียชีวิตและถูกฝังไปแล้ววันเดียวก่อนที่เราจะเข้าไปถึง”

เคนยาเป็นประเทศที่ประชากรราว 85% นับถือศาสนาคริสต์ โศกนาฏกรรมครั้งนี้สะเทือนขวัญทั้งประเทศเป็นอย่างมาก เพราะมีคนจำนวนนับร้อยที่เต็มใจอดอาหารกระทั่งเสียชีวิต

ประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ของเคนยา ประณามบาทหลวง มาเคนซี นเธนจ์ ผู้นำลัทธิ “คริสตจักรกู๊ดนิวส์อินเตอร์เนชันแนล” ว่า เขา “ไม่ได้ส่วนหนึ่งของศาสนาใด” ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่านี่คือการ “สังหารหมู่”

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา บาทหลวงผู้นำลัทธิอดอาหาร ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวข้องกับการตายของเด็ก 2 คน ซึ่งพ่อแม่ของเด็กเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมกับคริสตจักร บาทหลวงได้รับการประกันตัวออกมา แต่ถูกตำรวจจับกุมเพื่อดำเนินคดีอีกครั้ง

แล้วเหตุใดบางคนจึงยินยอมอดอาหารจนกระทั่งเสียชีวิต

นักเทววิทยาและจิตวิทยา ให้ความเห็นกับบีบีซีว่า นี่เป็นปัญหาของเคนยาที่มีคริสตจักรผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และไม่ได้รับการจัดระเบียบให้ถูกกฎหมาย เขาให้ความเห็นด้วยว่า ผู้นำศาสนาบางคนสามารถที่จะล้างสมองต่อผู้นับถือศาสนา และยังหาประโยชน์จากความปรารถนาของพวกเขาที่ต้องการแสวงหาทางออกต่อปัญหาที่กำลังเผชิญ

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว