ไทย-เมียนมา ย้ายรถนร.-รถพยาบาล ใช้สะพาน 2 แก้ปัญหาจราจรแออัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้  ประเทศไทยและเมียนมา ได้เริ่มดำเนินการตามข้อตกลงการจัดระเบียบการสัญจรระหว่าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ใหม่ โดยกำหนดให้รถยนต์ประเภทรถรับส่งนักเรียนและรถพยาบาลไปใช้การสัญจรเข้าออกระหว่างกันตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ตั้งอยู่บ้านสันผักฮี้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย แทนแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย เพื่อลดปัญหาความแออัดของการจราจร โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้จัดพิธีให้เริ่มใช้มาตรการดังกล่าว ณ เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 โดยฝ่ายไทยมีนายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานและฝ่ายเมียนมามี นายส่อ วิน เท รองผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก เดินทางข้ามมาเป็นประธานร่วม พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยานครบครัน

สำหรับด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สาย เปิดตั้งแต่เวลา 06.30-21.00 น.ทุกวัน และที่ผ่านมามักประสบปัญหาการจราจรมีความแออัด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว เทศกาลท่องเที่ยว หรือช่วงเช้าและเย็นเนื่องจากมีปริมาณรถเข้าออกเป็นจำนวนมาก ทำให้ล่าสุดทางส่วนท้องถิ่นของ อ.แม่สาย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้จัดประชุมกันโดยใช้กลไกลคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี) ไทย-เมียนมา พื้นที่ 1 นำโดยนายวิโรจน์ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรแม่สาย นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย พ.ต.อ ชัชชัย สำเนียง ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ร.อ. ไผทสันต์ อมรเมธาศักดิ์ เลขาทีบีซีพื้นที่ 1 ร.อ.ณัฐเกียรติ แสงไพศรี. ผบ.ร้อย 3 ฉก ม.2 กกล ผาเมือง ฯลฯ ประชุมหารือกับทางทีบีซีฝ่ายเมียนมาจนบรรลุข้อตกลงมาสู่การจัดระเบียบการจราจรดังกล่าว โดยในพิธีจัดให้รถตู้นักเรียนที่สัญจรไปมาโดยเฉพาะรถจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ที่ข้ามมาเรียนหนังสือตามโรงเรียนใน อ.แม่สาย ได้เดินทางข้ามาท่ามกลางการต้อนรับและเปิดป้ายอย่างเป็นทางการ

นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การย้ายรถบางประเภทให้ออกจากสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ไปยังแห่งที่ 2 ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดปัญหาการจราจรที่แออัดบนสะพานแห่งที่ 1 ที่เกิดขึ้นสะสมมานานหลายปี ซึ่งเชื่อว่านับจากนี้จะลดปัญหาได้ในระดับหนึ่งแต่เป็นเพียงระยะแรกเท่านั้น ส่วนในอนาคตทางไทยและเมียนมาก็จะมีการหารือกันในเรื่องการเพิ่มเติมจัดการระเบียบไปยังรถนักท่องเที่ยว รถบรรทุกสินค้าขนาดเล็ก ให้ไปใช้ช่องทางเข้าออกเหมือนกับระยะแรกต่อไป ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้การสัญจรของประชาชนทั้ง 2 ประเทศตรงสะพานแห่งที่ 1 มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทำให้การค้าและการท่องเที่ยวคล่องตัวมากขึ้นนอกจากนี้ยังเป็นมาตรฐานสากลและอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้เป็นอย่างดีด้วยต่อไป

ด้านนายส่อ วิน เท รองผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า ตนขอชื่นชมในความร่วมมือในฐานะมิตรประเทศของทั้ง 2 ฝ่ายว่ามีความใกล้ชิดกันเป็นอย่างยิ่ง และเป็นผลทำให้ตัวแทนของทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมมือกันจนทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จในที่สุดดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 สร้างมาได้นานประมาณ 50 ปี และรองรับผู้คนที่เดินทางเข้าและออกเฉลี่ยปีละกว่า 1.3-1.5 ล้านคน โดยแต่ละวันมีคนข้ามเข้าออกประมาณ 2,000-3,000 คน และบางวัน โดยเฉพาะเทศกาลท่องเที่ยวจะมีผู้คนนับหมื่นคนเข้าออกและยานพาหนะเป็นจำนวนมาก ขณะที่มูลค่าการค้าไทย-เมียนมา ผ่านด่านศุลกากรแม่สาย พบว่าในปี 2561 ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้ารวมกว่า 9,876,728,160.07 บาท แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 9,578,763,853.09 บาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ และนำเข้า 297,964,306.98 บาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร