สธ.ระบุ พื้นที่ “เสี่ยงต่ำ 32 จังหวัด” ลุ้นคลายล็อกดาวน์ เปิดห้าง-ตัดผม-ร้านอาหาร ต้น พ.ค.

แฟ้มภาพ : นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 20 เมษายน 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมแนวทางการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์จากสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยมีทีมที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วม

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากการหารือเห็นตรงกันว่า ควรต้องเปลี่ยนผ่านจากวิกฤตโควิดในปัจจุบัน แต่การเปลี่ยนผ่านจะไม่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม โดยจะมีเงื่อนไขต่างๆ สำคัญ โดยอยู่ระหว่างรมว.สธ.เซ็นหนังสือกรอบความคิดนี้เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) และหารือภาคส่วนต่างๆ เพื่อทำเป็นมาตรการระดับประเทศต่อไป คือ

1.กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานสาธารณสุขทุกภาคส่วน ต้องมีความเข้มข้นในมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองคนเข้าประเทศ จำเป็นต้องกักผู้เดินทางมาจากต่างประเทศตามมาตรฐาน 14 วัน เพราะยังมีการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาทุกจังหวัดต้องมีระบบค้นหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงอยู่กันแออัด เช่น ในชุมชน แรงงานต่างชาติ หรือที่มีความเสี่ยงต่างๆ มาตรการสาธารณสุขต้องเป็นพื้นฐาน จะไม่ยอมให้มาตรการด้านนี้หย่อนลง แต่จะต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น การตรวจแล็ปในทุกจังหวัด

2.เรื่องของคนไทยทุกคน ทุกสังคม ทุกองค์กร ต้องสร้างข้อตกลงกันว่า เราทุกคนจะปฏิบัติในเรื่องของสุขลักษณะที่ถูกต้อง ได้แก่ ออกที่สาธารณะต้องสวมหน้ากากอนามัย การอยู่ห่าง เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตจะไม่เหมือนเดิม เช่น ไปสุมหัวกัน 10 กว่าคน จะต้องงดการชุมนุมต่างๆ เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันจะกลับไปสู่การพบผู้ป่วยมากๆ ทั้งที่ควบคุมได้ดีแล้ว

3.ภาคธุรกิจ ขณะนี้มีคนตกงาน 7-10 ล้านคน ภาคธุรกิจต้องปรึกษาหารือกัน ซึ่งขณะนี้สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม หารือกันว่ากิจการใดเป็นกิจการเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ และพยายามปรับธุรกิจหรือกิจการต่างๆ ที่มีความเสี่ยงให้ลดความเสี่ยงลงน้อยที่สุด

4.กิจการบางอย่างที่มีความเสี่ยงสูงมากจะต้องปิดยาว อย่างที่พิสูจน์ทราบการแพร่เชื้อโควิด ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คลับ คาราโอเกะ ไนต์คลับ สถานประกอบการที่มีกิจการทางเพศทั้งทางตรงทางแฝง สนามพนัน บ่อน ต้องร่วมมือกันขอให้ปิดระยะยาว อนาคตถ้าจะปิดกิจการบางอย่างจะไม่ทำแบบครอบจักรวาล แต่จะทำเฉพาะจุดที่เป็นต้นกำเนิดปัญหา ถ้าทำแบบนี้ได้ กิจการส่วนใหญ่ก็จะเดินหน้าได้

5.เฝ้าระวังอย่างเรียลไทม์ ทันเหตุการณ์ ในระดับประเทศ จังหวัด และอำเภอ เพื่อรู้ว่าสถานการณ์แต่ละจุดเป็นอย่างไร ถ้าปกติก็เดินหน้าไป ถ้าเริ่มไม่ค่อยดีจะมีการเตือนและชะลอ จังหวะไหนมีอันตรายก็จะหยุด หรืออาจถอยกลับมาให้ทุกคนระวังตัวอยู่กับบ้าน ขึ้นกับพื้นที่และจังหวัด ถ้าทำทั้ง 5 ส่วนนี้ได้ก็จะมั่นใจว่า เราจะค่อยๆ เดินไปข้างหน้า

นพ.คำนวณ กล่าวว่า มาตรการต่างๆ จะไม่เดินพร้อมกันหมด 77 จังหวัด จะแบ่งเป็นพื้นที่ตามข้อมูลของ สธ.ที่จัดกลุ่มจังหวัด คือ กลุ่ม 32 จังหวัด “ที่ไม่มีผู้ป่วยในรอบ 2 สัปดาห์ ถือว่ามีการติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ” กลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่สามารถเปลี่ยนผ่านได้ในช่วงต้นเดือนพ.ค. แต่อาจจะมีการทดลอง 3-4 จังหวัดช่วงปลายเดือนเม.ย.ก่อน ขึ้นกับความพร้อม

จากนั้น 2 สัปดาห์ถ้าสถานการณ์เรียบร้อยดีก็จะเป็นกลุ่ม 38 จังหวัดที่มีการติดเชื้อประปราย คือกลางเดือนพ.ค. เพราะถึงเวลานั้นจังหวัดเหล่านี้คงมีผู้ป่วยน้อย และจะเป็นกลุ่ม 7 จังหวัดที่มีการติดเชื้อต่อเนื่อง แต่ไม่มีการระบาดใหญ่ ก็จะเป็น 2 สัปดาห์ถัดไปคือ ต้นเดือนมิ.ย.

“หากทำแบบนี้ก็เปลี่ยนผ่านแบบระมัดระวัง ไม่ฉับไว ไม่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในระลอกที่ 2-3 แบบต่างประเทศ ทำแบบนี้ได้จะเกิดสมดุลเรื่องความปลอดภัย การใช้ชีวิตที่จำเป็น ธุรกิจก็เดินหน้าได้ แต่เราไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมทุกอย่างต่อไปเวลาไปตัดผม ไม่ได้นั่งรอกัน อาจโทรศัพท์นัดมา เพราะไม่อยากให้มาต่อกัน หรือไปกินข้าว ก็อาจต้องนั่งแค่จำนวนน้อย และห่างกัน ภาคธุรกิจกำลังดำเนินการ ซึ่งทางสธ.คณะแพทย์ก็เห็นตรงกันว่าน่าจะเดินทางไปในทางนี้” นพ.คำนวณ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 14 เมษายน ระบุว่า “จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยในช่วง 14 วัน 32 จังหวัด ได้แก่ น่าน กำแพงเพชร พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท บึงกาฬ ตราด ระนอง จันทบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุโขทัย อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครนายก นครพนม พังงา สกลนคร สตูล หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระบุรี”