อยากเห็นความชัดเจน

คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย อมร พวงงาม

ประเด็นฮอตในวงการรถนำเข้าตอนนี้คงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าข่าวลือ “ชมรมเกรย์มาร์เก็ตลงขันย้ายอธิบดีกรมศุลกากร”

สืบเนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน กุลิศ สมบัติศิริ ที่เข้มเรื่องการตรวจปล่อยรถหรู หลังดีเอสไอส่งข้อมูลการนำเข้ารถหรูจากต่างประเทศ ปี 2556-2557

มาให้กรมศุลกากรตรวจสอบ พบว่าราคาซื้อขายรถ 4 ยี่ห้อ ที่ผู้นำเข้าสำแดง

Advertisment

ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก จนนำไปสู่การออกคำสั่งด่วนที่สุดถึงคณะกรรมการตรวจปล่อยรถสำเร็จรูปที่นำเข้า

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2560 โดยให้ประเมินราคารถยนต์ 4 ยี่ห้อใหม่

คำสั่งกำหนดให้ปรับส่วนลดทอนลงจากเดิม

มีเพียงยี่ห้อเดียวได้มากขึ้น

Advertisment

เฟอร์รารี่ นำเข้าจากอังกฤษ หักได้แค่ 32.01%

มาเซราติ นำเข้าจากประเทศอิตาลี หักได้มากขึ้นเป็น 53.52%

ลัมโบร์กินี นำเข้าจากประเทศอิตาลี หักได้ 27.67%

และ ปอร์เช่ นำเข้าจากประเทศอังกฤษ หักได้ 5.94%

การหักให้รวมแวตเข้าไปก่อน โดยดูราคาจาก www.automoto.it

ปัญหาใหญ่อยู่ที่ “ปอร์เช่” เพราะส่วนหักทอนเหลือไม่ถึง 6% จากเดิมกว่า 30%

ส่วนลดที่น้อยลง ทำให้ราคารถที่ซื้อมากระโดดขึ้นไปเยอะ

เวลาเอาไปคำนวณภาษี ก็แพงขึ้นตามราคารถ

ตรงนี้เองที่ทำให้ “ผู้นำเข้า” หัวเสีย ต้องวิ่งกันวุ่น เจรจาต่อรองทุกวิถีทางไม่เป็นผล

จนขยายผลไปสู่ขอพึ่งบารมีศาลปกครองให้ระงับคำสั่ง

แต่ศาลปกครองกลับไม่รับพิจารณา มองว่าเคสนี้น่าจะเข้าข่ายศาลด้านภาษีอากรมากกว่า

กลายเป็นสุญญากาศของรถยนต์นำเข้า เพราะ 5 เดือนกว่าแทบไม่มีรถใหม่หลุดออกจากท่าเรือ

5 เดือนของความทุกข์ยาก กลุ่มผู้นำเข้าซึ่งช่วงนั้นยังผนึกกำลังกันเหนียวแน่น เป็น “สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่”

มีบิ๊ก “สมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส” จากบีอาร์จี เป็นนายก

มีบิ๊กต๊ะ “พีรศุษม์ ตันติยันกุล” จากอีตั้น เป็นอุปนายก

แต่วันนี้ ดูเหมือนจะแยกเป็น แม่น้ำ 2 สาย

สายแรก ตัว “สมาคม” ที่ใช้นโยบายร่วมเจรจา สร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานรัฐเป็นหลัก

ในขณะที่ สายที่สอง แยกตัวออกมาตั้งเป็น “ชมรมผู้นำเข้า” หรือชมรมเกรย์มาร์เก็ต

ไม่เห็นผู้นำชัดเจน หลัก ๆ มีเสี่ยตุ้ย จากเอฟ-วัน, เสียเต๋า จากบอสสปีด และเสี่ยเอ จากดีอัพ

กลุ่มนี้จะถึงลูกถึงคนหน่อย ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งยกพลไปยื่นหนังสือ 3 หน่วยงานใหญ่

มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน และล่าสุด สำนักนายกรัฐมนตรี

ร้องขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบ นายกุลิศ สมบัติศิริ อาจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ส่งผลกระทบโดยรวมต่อภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการรถนำเข้า

ในเอกสารที่ยื่นซึ่ง นายชัชวัฎ สุวรรณโณชิน แจ้งนักข่าวว่า เป็นนายกชมรม

ยังระบุว่า อธิบดีกุลิศ มีอคติกับชมรมผู้นำเข้า เพราะเคยเอสเอ็มเอสจากเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งจดทะเบียนในนามกรมศุลกากร

ถึงสมาชิกในชมรมด้วยข้อความ “มีข่าวว่าสมาคมเกรย์ฯลงขันจะย้ายผมออกจากตำแหน่ง ผมไม่ว่าอะไรนะ…คนที่มาแทนผมก็ต้องทำตามผมอยู่ดี”

ซึ่งสมาชิกทุกคนปฏิเสธว่า ไม่เคยคิดและทำไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

เนื้อข่าวที่ระบุถึงสมาคมเกรย์ฯ

ทำให้ “บิ๊กสมศักดิ์” ต้องรีบออกมาปกป้องสมาคม

ร่อนเอกสารถึงสื่อหลายสำนักว่า เหตุการณ์ครั้งนี้

สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ

อีกทั้งนายชัชวัฎ ที่บอกนักข่าวว่า เป็นนายกสมาคมเกรย์มาร์เก็ต

ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมแต่อย่างใด

ขณะที่กระแสข่าว ลงขันย้ายอธิบดี น่าจะเป็นเพียง “ข่าวลือ”

มหากาพย์ “รถหรู” หรือ “รถนำเข้า” ช่วงปีเศษ ๆ ที่ผ่านมา

ปรากฏตามหน้าสื่อ สิ่งพิมพ์ วิทยุ ทีวี เยอะมาก

เปิดยูทูบดูมีเป็นสิบ ๆ ตอน

แต่แปลก !!! กลับไม่มีข้อสรุปชัดเจนสักเรื่อง

ไล่เรียงตั้งแต่ นายกฯใช้ ม.44 แก้ปัญหารถค้างท่าเรือ

กรมศุลฯเปิดช่องรีเอ็กซ์ปอร์ต กลับไปทำเอกสารต่าง ๆ ให้ถูกต้อง

ดีเอสไอบุกอายัดรถหรู ทั้งของนิชคาร์ ทั้งของ “บอย ยูนิตี้”

เคสรถขโมยจากอังกฤษ อยู่ในโชว์รูมและคลังฟรีโซน

เรื่องปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรรถนำเข้า ฯลฯ

ถึงวันนี้ยังไม่มีข้อสรุปสักเรื่อง

ทุกอย่างต้องการความ “กระจ่าง”

รวมถึงกระแสข่าวลือ “ลงขันเด้งอธิบดีกรมศุลฯ”

ประชาชนอยากรู้