![US-POLITICS-ECONOMY-BIDEN-EMPLOYMENT](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2024/05/Biden.jpg)
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐได้ประกาศมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีนหลายรายการ โดยจะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 25% ไปจนกระทั่งถึง 100% โดยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนครั้งนี้ถูกดำเนินการภายใต้ กม.การค้าสหรัฐ มาตรา 301 ที่ให้อำนาจกำหนดมาตรการตอบโต้การค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ
โดยรายการสินค้าจีนที่ถูกสหรัฐตอบโต้ อาทิ เหล็กและอะลูมิเนียม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบตเตอรี่ลิเทียม เซมิคอนดักเตอร์หรือชิป ถุงมือยางทางการแพทย์และถุงมือผ่าตัด
- วิธียืนยันตัวตน แอปทางรัฐ ผ่าน 7-11 รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 มิ.ย. 2567
- เปิดเหตุผล ทำไม ฮาตาริ ตัดสินใจรีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 34 ปี แม้ถือมาร์เก็ตแชร์ 70%
มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า การที่สหรัฐใช้มาตรา 301 ในการตอบโต้ทางการค้ากับจีน กำลังจะนำไปสู่ สงครามการค้า หรือ Trade War รอบใหม่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่จะใช้หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
แต่ผลของการประกาศตอบโต้ทางการค้าด้วยการขึ้นภาษีระหว่าง 2 ฝ่ายที่กำลังจะตามมา กลับส่งผลกระทบต่อการค้าทั้งการนำเข้าและส่งออกของประเทศไทย
ด้านหนึ่งจะมีสินค้าจีนหลายรายการที่ถูกสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าทะลักเข้ามายังตลาดอาเซียน รวมถึง ตลาดไทย ไม่ว่าจะเป็นเหล็กและอะลูมิเนียม รถยนต์ EV หรือแผงโซลาร์เซลล์ แต่อีกด้านหนึ่งไทยอาจจะได้รับอานิสงส์จากการส่งออกสินค้าถุงมือยางที่จะเข้าไปทดแทนสินค้าถุงมือยางจีนที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นก็ได้
แต่ก็มีข้อควรพึงระมัดระวังในกรณีที่สหรัฐขยายการตรวจสอบสินค้าที่ผลิตจากโรงงานจีนที่ย้ายฐานมายังประเทศไทยเพื่อผลิตส่งออกไปตลาดสหรัฐ ในเรื่องของ Anticircumvention หรือ AC อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ แผงโซลาร์เซลล์
นอกจากนี้ยังมีความน่าเป็นห่วงในอีก 3 ปีข้างหน้า ประเทศไทย จะเป็นฝ่ายขาดดุลทางการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ขาดดุลอยู่ 1.3 ล้านล้านบาท พุ่งขึ้นมาเป็น 1.5-1.6 ล้านล้านบาท หากไทยไม่สามารถระงับการไหลบ่าเข้ามาของสินค้าจีนที่ถูกสหรัฐตอบโต้ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้
จึงควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐจักต้องศึกษาวิเคราะห์หาทางตั้งรับสินค้าจีน-ทุนจีนที่หนีสงครามการค้าที่จะทะลักเข้ามายังประเทศไทย จริงอยู่ที่ไทยไม่อาจใช้มาตรการตอบโต้เพื่อสกัดกั้นสินค้าจากจีน หรือทุนจีนที่จะเข้ามาตั้งโรงงานได้โดยตรง
แต่ก็อาจหามาตรการอื่น อาทิ การกำหนดมาตรฐานสินค้า ความปลอดภัย สุขอนามัย ไปจนกระทั่งถึง การทุ่มตลาด หากพิสูจน์ได้ว่าการทะลักเข้ามา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นในประเทศ เพื่อสกัดกั้นสินค้าเหล่านั้นได้