ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ค้าทุเรียนเมืองจันท์

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย ออยล์เดย์

ชั่วโมงนี้ ผลไม้ไทยที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากสุด คงหนีไม่พ้น “ทุเรียน” และยิ่ง “อาลีบาบา” เข้ามาช่วงชิงการค้าขาย “ทุเรียน” บนเว็บ “ที-มอลล์” ด้วย ดันราคาแพงหูฉี่กันไป

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งนำทัพโดย นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมผู้บริหาร ธ.ก.ส. และคณะสื่อมวลชน เดินทางเยี่ยมชมกิจการและสวนผลไม้ของลูกค้า ธ.ก.ส. 2-3 ราย ซึ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าดังกล่าว

ลูกค้ารายแรกที่แวะล้งของกำนันธงไชย คุณนาม ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งลูกค้า ธ.ก.ส.มาตั้งแต่ปี 2540 ที่ให้เงินกู้มา 1 แสนบาท ปลูกผลไม้บนที่ดินแปลงหนึ่ง มีกล้วย เงาะ ทุเรียน ขณะเดียวกันก็รับจ้างทำทุกอย่าง ตัดทุเรียนก็ทำ ค้าขายก็ทำ จนปัจจุบันมีที่ดินกว่า 100 ไร่แล้ว และตัดสินใจเข้ามาทำกิจการ “ล้งผลไม้” เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาเอง เพราะลูกชายเรียนรู้และได้ประสบการณ์จากที่เคยรับจ้างทำงานกับคนจีนที่ทำล้งผลไม้มาก่อน จึงเข้าซื้อกิจการล้งมาทำเอง โดยทุเรียนที่ต้องส่งออก ปลูกเองไม่พอ จะต้องซื้อจากสวนต่าง ๆ ด้วย ซึ่งกำนันธงไชยก็มีความเป็นห่วงว่าคนจีนรุกไล่เข้ามาหนักขึ้น ถึงขนาดไปซื้อจากสวนเองและตัดเองหมด จะทำให้เกิดปัญหาควบคุมราคาขึ้นมาเองด้วย ขณะที่ทุเรียนเป็นของคนไทย ในฐานะผู้ผลิต จึงอยากให้รัฐเข้ามาดูแลหรือออกระเบียบในการส่งออกบ้าง

ลูกค้าอีกรายของ ธ.ก.ส.เป็นเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ คือ นายรัตนโชติ ตันติรัตนไพศาล โรงงานแปรรูปทุเรียน Freeze Dry ทายาทเกษตรกรที่มีคุณแม่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ โดยเฉพาะปลูกทุเรียนมากถึงราว 10,000 ตัน ซึ่งจบมาจากเอแบค ก็ได้เข้ามาช่วยกิจการครอบครัวและเห็นโอกาสในการผลิตสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากสวนทุเรียน โดยผลิตเป็นข้าวเหนียวทุเรียนอบแห้ง ข้าวเหนียวมะม่วงอบแห้ง เนื้อทุเรียนหมอนทองอบแห้ง ซึ่งจะผ่านกระบวนการรีดน้ำออก และทำเป็นชิ้นพอดีคำ กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาทันที และได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีนที่ซื้อกลับไปประเทศเพื่อไว้ทานได้ทั้งปี ขณะนี้เตรียมขยายตู้แช่เก็บเนื้อทุเรียนสดในสต๊อกเพื่อรองรับการผลิตแปรรูปได้ทั้งปี โดยได้กู้กับทาง ธ.ก.ส.ถึง 20 ล้านบาท

มาที่สวนผลไม้ “สาวสุดใจ” ของ นาวาตรีสุดใจ สุดประเสริฐ ที่พลิกโฉมสวนผลไม้ธรรมดาให้เป็นธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร มีทั้งสวนผลไม้บุฟเฟต์พร้อมที่พักโฮมสเตย์ 5 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ราว 60 คน ส่วนผลไม้บุฟเฟต์ที่ฮอตของสวนนี้ ก็หนีไม่พ้น “ทุเรียนหมอนทอง” และผลไม้มังคุด เงาะ สละ กล้วย เป็นต้น ซึ่งทุเรียนหมอนทองนอกจากจะปลูกเองแล้วก็มีรับซื้อจากสวนต่าง ๆ มาให้บริการอย่างเพียงพอ โดยเน้นคัดทุเรียนที่สุกราว 90% ซึ่งจะต่างจากล้งที่รับทุเรียนที่สุกราว 70% ที่เผื่อเวลาสำหรับส่งออกไปยังจีน ลูกค้าที่แวะเวียนมาหนาแน่นเพราะต้องการกินทุเรียนพูใหญ่อย่างจุใจ ซึ่งรอบนี้ก็มีทุเรียนนกกระจิบ ทุเรียนพวงมณีให้ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยที่ต่างจากหมอนทองด้วย และยังสามารถเดินชมสวนผลไม้ด้านใน และจะมีเจ้าของสวนเดินบรรยายซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายราว 50-100 บาท ซึ่งคุณอภิรมย์ได้นำทีมเดินชมสวน ขณะที่ลุงสุดใจเป็นผู้บรรยายและสาธิตการเก็บทุเรียน ซึ่งคุณอภิรมย์ก็ไม่พลาดที่จะร่วมวงการเก็บทุเรียนด้วย

ช่วง 2 วันหยุดสุดสัปดาห์ มีความสุขสุด ๆ ได้ฟินกับวังวนการกินทุเรียนอย่างปรีดิ์เปรมจริง ๆ