คอลัมน์

ปัจจัยลบท่วม ครึ่งปีหลังยังไร้ข่าวดี

บทบรรณาธิการ

ศักราชปีหนู 2563 ผ่านไปกว่าครึ่งทาง แต่ปัจจัยบวก ข่าวดีแทบไม่มีให้เห็น เข้าสู่ครึ่งปีหลังแทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น คนไทยกลับยิ่งเคว้งคว้าง วิกฤตเศรษฐกิจรุม การเมืองซ้ำ ข่าวร้ายรายวันโรงงาน สถานประกอบการปิดกิจการ คนตกงาน ถูกเลิกจ้างยังมีต่อเนื่อง แม้โควิด-19 จะคลี่คลาย แต่คนครึ่งค่อนประเทศเดือดร้อนสาหัสจากปัญหาปากท้อง

ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจรากหญ้าที่ทรุดหนัก ธุรกิจรายกลาง รายเล็กทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัดก็อยู่ในสภาพไม่แตกต่างกัน เพราะยอดขาย กำไรหด ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น ขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคดิ่งวูบ ผลพวงจากคนระดับกลาง และล่าง มนุษย์เงินเดือนรายได้ลดน้อยลง ต้องประหยัดการจับจ่าย

จะพึ่งพารายได้ภายนอกจากภาคส่งออก การท่องเที่ยว พยุงเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีปัญหาคงยาก เพราะหลังโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก เศรษฐกิจทั้งระบบได้รับผลกระทบรุนแรง สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปยังซมพิษไข้ ส่วนจีนแม้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดไม่ให้ลุกลามรอบใหม่ แต่กว่าเศรษฐกิจจะฟื้นชัดยังต้องใช้เวลา

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ ประกอบกับการเมืองภายในประเทศคุกรุ่น เพราะรัฐบาลอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนผลัดใบ ประชาชน แวดวงธุรกิจ นักลงทุน รอดูโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่

Advertisment

โดยเฉพาะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในโควตาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคแกนนำรัฐบาล ที่จะขยับปรับเปลี่ยน ทั้ง รมว.คลัง พลังงาน อุตสาหกรรม ฯลฯ หาก รมว.คนใหม่ที่จะมานั่งเก้าอี้ ถูกเลือกได้ตรงกับงาน มีฝีมือ ภาพลักษณ์ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ อย่างน้อยจะเป็นข่าวดีประเดิมครึ่งปีหลัง

ที่สำคัญจะส่งผลบวกในแง่จิตวิทยา ความเชื่อมั่น กับคนไทยและในสายตานานาประเทศ แต่ถ้ามาด้วยเหตุผลทางการเมือง และไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นอาจต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิม

แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 และแรงเหวี่ยงจากเศรษฐกิจโลก ซ้ำเติมให้เศรษฐกิจในประเทศวิกฤต แต่ถ้าการเมืองนิ่ง การทำงานของรัฐบาลดำเนินไปอย่างเป็นเอกภาพ มุ่งประโยชน์ส่วนรวม ไม่เกิดความขัดแย้ง ขัดขา ฝ่ายการเมืองทั้งในรัฐบาล ในสภาจะมีเวลาแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมได้เต็มที่อีกทั้งจะช่วยสร้างบรรยากาศ เรียกความศรัทธาเชื่อมั่น

ทั้งจากคนไทย ชาวต่างชาติ การกู้เศรษฐกิจที่กำลังวิกฤตจะได้ดำเนินไปราบรื่นไม่ติดขัด ข่าวดีที่ทุกภาคส่วนอยากรับฟังจะได้มาแทนที่ข่าวร้ายที่กำลังท่วมโลก ทะลักประเทศ

Advertisment