หยดน้ำบนยอดหญ้า 2 แบรนด์แข่งกันโต

คอลัมน์ สามัญสำนึก
สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

คงไม่ใช่แค่ “บุญพาวาสนาส่ง” เพียงอย่างเดียว ที่ทำให้ 2 คน 2 ค่ายของวงการอสังหาริมทรัพย์ยิ้มได้อย่างมีความสุข แต่เป็นเพราะ “ประสบการณ์จริง” และการปรับตัวที่รวดเร็ว ทำให้ทุกอย่างดีเกินคาด

สามารถ “พลิกกลับ” สถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดในรอบ 23 ปี หลังฟองสบู่แตกในยุคแบงก์ไฟแนนซ์เจ๊ง

สามารถ “สร้างขวัญกำลังใจ” ให้คนอาชีพเดียวกัน รู้สึกมีความหวัง หลังขนหัวลุกจากที่กูรูฟันธงว่า ธุรกิจอสังหาฯจะซบต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ไม่ใช่แค่ 2 ปีที่เคยประเมิน

เพราะเจอพิษโควิด-19 ขย่มซ้ำด้วยการเมืองบ้านเรา

มาวันนี้ 2 บิ๊กแบรนด์ ได้ผ่า “วิกฤต” สร้าง “โอกาส” ทั้ง “เอพี” และ “ศุภาลัย” จึงรอดได้ดี ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของ “เรียลดีมานด์” และ “ความพร้อมขององค์กร” อย่าง “เอพี” ทุบทุกสถิติ ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้ถึง 19,960 ล้านบาท แถมทำกำไรสุทธิอีก 1,830 ล้านบาท

Advertisment

ทำให้ “อนุพงษ์ อัศวโภคิน” ซีอีโอค่ายเอพี ลูกชายคนสุดท้องของนางเพียงใจ หาญพาณิชย์ เจ้าแม่ค้าที่ดิน ตัดสินใจบุกตลาดต่างจังหวัด ทั้งขอนแก่น ระยอง นครศรีธรรมราช

เพราะนาทีนี้ มีแต่ค่ายศุภาลัยเท่านั้น ที่ “มือขึ้น” กับตลาดภูมิภาค ส่วนตลาดกรุงเทพฯและปริมณฑล ศุภาลัยก็เริ่มครองมาร์เก็ตแชร์มากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็น star ที่ทุกคนไม่กล้าประมาท

เฉพาะกำไรสุทธิครึ่งปีแรก ค่ายนี้โกยไป 2,294 ล้านบาท แสดงว่าทำมาร์จิ้นได้ดี โชคดีของผู้ซื้อบ้านและคอนโดฯศุภาลัยในระยะหลัง ๆ ที่ได้ดีไซน์เตะตาขึ้น ไม่เชยเหมือนก่อน

ต้องยกเครดิตให้ “ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” ลูกชายคนโตของ ประทีป-อัจฉรา ที่กล้าฉีกตัวเอง ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อเป็นสถาปนิก ทำให้ได้เห็นข่าวน่าทึ่ง

Advertisment

ศุภาลัยขายคอนโดฯหมดภายใน 2 วัน โกยไป 2.3 พันล้าน กับทำเลสามย่าน กลายเป็น “หยดน้ำบนยอดหญ้า” ท่ามกลางตลาดรวมที่ขายกันได้อืดมาก

ก่อนหมดปี เราจึงเห็นการลงทุนของแบรนด์ใหญ่ที่โหมทุ่มต่อเนื่อง ทำให้กลไกเศรษฐกิจพอขยับได้บ้าง

ขณะเดียวกันก็แข่งระบายสต๊อก น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่ประกาศอัดโปรโมชั่นแบบเด็ก ๆ ไม่เด็ดขาดถึงใจ

คือขายขาดทุนกำไรนิด ๆ หน่อย ๆ เหมือนใจไม่ถึง

ต่างจากค่ายแสนสิริ รายนี้ใจถึงจริง ยอมรับ

เนื่องจากซัพพลายในตลาดยังท่วมท้นล้นความต้องการ

ค่ายใหญ่จึงเฝ้ารอก๊อกใหญ่ ให้รัฐบาลเปิดประเทศเป็นทางการ เมื่อนั้นกระแสนักลงทุนต่างชาติจะไหลบ่า สร้างเงินเป็นกอบเป็นกำ

น่าสนใจที่รอบนี้ ผู้ประกอบการปรับตัวได้เร็วมาก เรียกว่า “มีสติกับสิ่งที่ทำ” ระดมเงินสดเข้ากระเป๋าเพลย์เซฟไว้ก่อน

ล่าสุดบิ๊กแบรนด์ที่พร้อมแล้ว ต่างโหมโรงประกาศซื้อที่ดินรอบใหม่กันแล้ว รอบนี้ประกาศกันว่อนเน็ต ทั้งพฤกษา เอพี ศุภาลัย ฯลฯ

เฉพาะ AP ประกาศปรับงบประมาณจัดซื้อที่ดินใหม่ จากต้นปี 2563 ตั้งไว้ที่ 8,500 ล้าน เมื่อโควิดมาก็ปรับลดลงทันที เหลือแค่ 4,500 ล้าน

“ผมกล้ายอมรับความจริง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ฝืน” อนุพงษ์ย้ำ

แต่เวลานี้ สถานการณ์เปลี่ยน ทุกอย่างดีขึ้น เอพีประกาศใหม่อีกรอบ ขอเพิ่มเป็น 9,500 ล้านแล้ว ซึ่งมากกว่างบฯที่เคยประกาศเมื่อต้นปีซะอีก

แสดงว่ากลุ่มผู้ถือครองที่ดินโดยรวม ยอม “คาย” ไม่โก่งราคามากเหมือนก่อนหน้านี้ ขอบคุณ “โควิด-19” ที่ทำให้ที่ดินราคาถูกลง

ทั้งหมดจึงกลายเป็น “โอกาส” ของนักพัฒนาที่ได้ “ต้นทุน” ที่ถูกลง เหลือแต่การพัฒนาโปรดักต์เท่านั้น จะคุ้มค่าและสวยทันสมัยหรือไม่

อันนี้ขึ้นอยู่กับ “รสนิยม” ของเจ้าของโครงการ

แล้วเรื่องรสนิยมไม่ใช่ว่า ใครมีเงินแล้วจะทำได้ดี

ไม่เชื่อ ลองเล็งทำเลดูโครงการของเจ้าสัวท่านหนึ่งได้เลย

ทั้งโรงแรม คอมมิวนิตี้มอลล์ ปิดไปแล้วหลายแห่ง

รีโนเวตก็หลายรอบ

หมดเงินไม่ว่า แต่รสนิยมไม่มาซะที

น่าเห็นใจจริง ๆ