ล้มเหลวสิ้นดี

คอลัมน์ สามัญสำนึก
สมปอง แจ่มเกาะ

เช้านี้ระหว่างที่กำลังนั่งปิดต้นฉบับ (19 กุมภา) การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยังไม่จบ

วันนี้เป็นวันที่ 4 ของการอภิปราย ซึ่ง ณ เวลานี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะลากยาวข้ามคืนหรือไม่ หากเป็นไปตามกรอบที่ตกลงกันไว้ คาดว่าจะมีการลงมติในวันเสาร์ (20 กุมภา)

ผมเองไม่มีเวลาติดตามรับชมรับฟังการถ่ายทอดสด แต่ใช้วิธีติดตามทางสื่อออนไลน์และหนังสือพิมพ์ และเท่าที่ได้สดับตรับฟังความเห็นจาก “คอการเมือง” ที่ติดตามศึกอภิปรายอย่างเข้มข้น

บางคนบอกว่า “น่าเบื่อที่ต้องฟังนักการเมืองพ่นน้ำลายในสภา”

ขณะที่อีกคนบอกว่า “เราต้องจ่ายภาษีเพื่อให้คนพวกนี้มาเล่นตลกให้เราดูเหรอ”

หลายคนเห็นตรงกันว่า “ประท้วงกันไป ประท้วงกันมากับเรื่องไร้สาระ ประท้วงวกวนซ้ำซาก เสียเวลามาก”

…นานาจิตตังครับ

ไม่รู้ว่าบรรดาท่านผู้ทรงเกียรติในสภาทั้งหลายจะได้ยินเสียงสะท้อนนี้หรือไม่

ย้อนกลับไปภาพของเมื่อวาน (18 กุมภา) คลิกไปอ่านข่าวออนไลน์ “บิ๊กตู่” งอนตุ๊บป่อง…ฉุนฝ่ายค้านหัวเราะ แจงไปก็ไม่ฟัง ทิ้งไมค์ออกห้องประชุม (ข่าวสด)

และเช้ารุ่งขึ้น พลิกอ่านหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ “ไทยรัฐ” พาดหัวข่าวว่า “มัวหัวเราะ ไม่ฟังคำชี้แจง ‘ตู่’ โมโหจัด ทิ้งไมค์เดินหนี”

ขณะที่ “มติชน” เสนอภาพข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังเดินจากที่ประชุม พร้อมคำบรรยายภาพว่า “หงุดหงิด”

เช่นเดียวกับเดลินิวส์ ที่เล่นภาพเปรียบเทียบรูปของนายกฯ ที่กำลังลุกขึ้นชี้แจงด้วยสีหน้าบึ้งตึง และภาพของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านนั่งหัวเราะ ด้วยหัวข้อว่า “คนละมุม”

ภาพที่เกิดขึ้นคงสะท้อนและตอกย้ำความมีวุฒิภาวะของสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

และเมื่อวานอีกเช่นกัน 18 กุมภา เป็นวันฤกษ์ดีที่เงินงวดแรก 2,000 บาท จากโครงการเราชนะ จะถูกโอนเข้ากระเป๋าผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่บังเอิญว่า แอป “เป๋าตัง” ดันมาล่ม ตั้งแต่ชั่วโมงแรก ใช้ไม่ได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอปเป๋าตังระบบล่ม ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เป็นระยะ ๆ จนถึงวันนี้ก็ยังแก้ไม่ตก

ไหน ๆ ก็พูดถึงโครงการเราชนะแล้ว หากไม่พูดถึงภาพของ 2 ตายาย ที่โลกออนไลน์แชร์กันก็คงไม่ได้

แม้วันนี้ 2 ตายาย จะได้รับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญที่โอนเงินเข้าไปช่วยจนกลายฐานะเป็นเศรษฐีเพียงข้ามคืน

แต่ภาพของคนพิการ ผู้สูงอายุ 70-80 ปี ที่ต้องอดตาหลับขับตานอน ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ออกจากบ้านไปรอรับบัตรคิวที่ธนาคารในตัวอำเภอ เพื่อลงทะเบียนโครงการเราชนะ สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนที่ลงทะเบียนออนไลน์ไม่ได้

หลายคนโชคดีที่รับบัตรคิวเร็ว แต่บัตรประชาชนเป็นแบบเก่า ไม่เป็นแบบสมาร์ทการ์ดฝังชิป ลงทะเบียนไม่ได้จึงต้องวิ่งไปที่ว่าการอำเภอเพื่อทำบัตรประชาชนใหม่ เสร็จแล้วจึงกลับไปลงทะเบียนที่ธนาคารอีกรอบ

หลายคนต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวัน ข้าวปลาแทบไม่ได้กิน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เย็นย่ำค่ำ

ทุกคนยอมยากลำบากเพื่อแลกกับเงินยาไส้

นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในเรื่องของการบริหารจัดการ

อย่าลืมว่าโควิด-19 จะยังอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนาน

โควิดรอบนี้หนักกว่ารอบแรก พิษร้ายของโควิดทำให้ธุรกิจ-เศรษฐกิจพังพินาศย่อยยับกว่าวิกฤตหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา

แต่โควิด-19 ก็มีข้อดี มุมดี หลายเรื่องให้เห็น ต้องขอบคุณโควิด-19 ที่ทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ ได้มองเห็นฝีมือและขีดความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐบาลชุดนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น

ท่องให้ขึ้นใจครับ “อัตตา หิ อัตตโน นาโถ” ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

วิกฤตครั้งนี้หากไม่สู้ก็อยู่ยาก

ขอให้สู้อย่างทระนง สู้อย่างสุจริตชน

เพียงเท่านี้ โลกก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง