ปิดจุดเสี่ยงพืชเศรษฐกิจใหม่ “กัญชง-กัญชา”

กัญชง

 

บทบรรณาธิการ

กัญชง (Cannabis sativa) หรือ hemp กับกัญชา (Cannabis indica) หรือ marijuana แม้คนไทยรู้จักดี แต่น้อยคนจะรู้ถึงความแตกต่าง รวมทั้งคุณและโทษแบบรู้ลึกรู้จริง ประกอบกับหลายสิบปีที่ผ่านมากัญชง-กัญชาถูกจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 กลุ่มเดียวกับกระท่อม ฝิ่น พืชเห็ดขี้ควาย คนส่วนใหญ่จึงรับรู้ถึงโทษมากกว่าด้านที่เป็นคุณ

แต่กระแสการเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยนกฎหมาย การออกกฎใหม่เปิดทางให้สามารถนำกัญชง กัญชามาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

ขณะที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั้งในแวดวงการแพทย์ ธุรกิจเครื่องดื่ม อาหาร เครื่องสำอาง ฯลฯ แข่งกันวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกนวัตกรรมสารสกัด แปรรูป หรือส่วนผสมจากกัญชง กัญชา ส่งผลให้ยาเสพติดอันตรายกลายเป็นพืชเศรษฐกิจมีอนาคต

เช่นเดียวกับประเทศไทยที่รัฐบาลกำหนดให้กัญชง กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่รัฐจะผลักดัน และหลังที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 มีมติปลดบางส่วนของกัญชง กัญชา พ้นบัญชียาเสพติดประเภท 5

จากนี้ไปการนำบางส่วนของกัญชง กัญชามาใช้จะไม่ผิดกฎหมาย สามารถใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และสุขภาพ อาทิ ผลิตยาสมุนไพรใช้ในอุตสาหกรรมการยา เครื่องสำอาง อาหาร ฯลฯ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ในทางสันทนาการเท่านั้น

บางส่วนของกัญชง กัญชา ที่ปลดล็อก ได้แก่ 1.เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก 2.ใบไม่มียอดหรือช่อดอก 3.สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (CBD) เป็นส่วนประกอบและมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก 4.เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดเมล็ดกัญชง

ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปลดล็อกให้นำส่วนที่เป็นคุณของพืช 2 ชนิดมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ต้องสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย เร่งวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ ต่อยอดสินค้าเมดอินไทยแลนด์สร้างรายได้เข้าประเทศจริงจังมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจให้ทุกภาคส่วนตระหนัก รู้จักใช้ประโยชน์จากกัญชง กัญชา ในทางที่สร้างสรรค์ เพราะแม้พืช 2 ชนิดนี้จะมีคุณอนันต์ แต่ถ้าใช้ในทางที่ผิดก็มีโทษมหันต์

รัฐจึงต้องบริหารความเสี่ยงโดยบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น ป้องกันการนำกัญชง กัญชาไปใช้ในทางมิชอบสวนนโยบายรัฐ ผิดเจตนารมณ์กฎหมายที่คาดหวังผลด้านที่เป็นคุณไม่เกิดโทษ