เสร็จสิ้นไปแล้วอย่างเป็นทางการ สำหรับงาน “Social Business Day 2019” ภายใต้แนวคิด “Making Money is Happiness,Making Other People Happy is Super Happiness” (การสร้างรายได้คือความสุข แต่การสร้างความสุขให้คนอื่นคือความสุขที่แท้จริง) ที่มีผู้นำธุรกิจเพื่อสังคมกว่า 60 ประเทศทั่วโลกร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง พร้อมปลุกพลังคนรุ่นใหม่สร้างยุคศิวิไลซ์ใหม่ (New Civilization) วัดความสำเร็จด้วยการสร้างประโยชน์ให้สังคม โดยมีภาคธุรกิจไทยร่วมสนับสนุนแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม
“ศ.มูฮัมหมัด ยูนุส” นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้ริเริ่มแนวคิด Social Business หรือธุรกิจเพื่อสังคม กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการรวมตัวของชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมจากนานาประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจที่ชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื่อมั่นว่าธุรกิจเพื่อสังคมจะนำความเปลี่ยนแปลงสู่สังคมโลก
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
โดยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่กรุงปารีสในปี 2024 นับเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจเพื่อสังคมจะเข้าไปสร้างปรากฏการณ์ใหม่ผ่านพลังของกีฬา พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมโลก ด้วยการร่วมกันสร้างความเจริญใหม่ หรือ New Civilization ที่ไม่ได้วัดความสำเร็จด้วยสินทรัพย์ หรือ เงินตรา เหมือนในอดีต แต่ความสำเร็จนั้น คือการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน สังคม และมวลมนุษยชาติ ซึ่งจะสร้างคุณค่าและเป็นความสุขที่แท้จริง
“ประเทศไทยจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของธุรกิจเพื่อสังคม และเป็นศูนย์กลางอันดับต้นๆของการขับเคลื่อนเรื่อง Social Business ซึ่งการจัดงานที่ประเทศไทยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำของไทย ทั้ง C-asean และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ผู้บริหารมีความกระตือรือร้นที่จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่”
และในการปิดงาน Social Business Day 2019 “ศุภชัย เจียรวนนท์” ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับเกียรติขึ้นกล่าว Closing Ceremony
โดย “ศุภชัย” กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ที่มีธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยกว่า 40 แห่ง ตระหนักถึงความท้าทายในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน
เครือซีพีได้ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย ถึงแม้การประสบความสำเร็จในธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องเป็นองค์กรที่ดีมีจริยธรรมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ที่สร้างประโยชน์ให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุสได้พิสูจน์มาแล้ว และเครือซีพีมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ควบคู่กับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน
“ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการเยียวยาปัญหาของสังคมโลกร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”
และในวันเดียวกันนี้ “นพปฎล เดชอุดม” ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ร่วมเสวนาในหัวข้อ “ความท้าทายของธุรกิจเพื่อสังคม” กล่าวว่า ธุรกิจเพื่อสังคมเป็นโมเดลเพื่อหาทางออกในการช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นแก้ปัญหาที่เป็น pain point ของสังคมยึดแนวทางการรับรู้และความเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาในระดับสังคมอย่างยั่งยืน เช่น การส่งเสริมการปลูกกาแฟแทนการปลูกข้าวโพดให้คนในชุมชนทางภาคเหนือ เป็นต้น การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะต้องเป็นได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
ทั้งนี้ ในงานวันแรก (28 มิ.ย.)ได้จัดให้มีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ กับ Yunus Thailand ซึ่ง “ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ” ผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวแทนร่วมแสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนเรื่องธุรกิจเพื่อสังคมในอนาคต ผ่านแพลตฟอร์ม Corporate Action Tank อีกด้วย