LINE ROOKIE เรียนรู้โลกทำงานจริงสไตล์ “ไลน์”

นอกจาก LINE จะเป็นแอปพลิเคชั่นให้บริการส่งข้อความยอดฮิตในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นองค์กรที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันอยากร่วมงานด้วยเพราะว่ามีนวัตกรรม และมีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นกันเอง และยืดหยุ่น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนมิลเลนเนียล ด้วยเหตุนี้ จึงมีนโยบายในการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาร่วมเรียนรู้งานขององค์กร มุ่งเน้นสร้างทักษะที่สำคัญ และสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเอง ให้พวกเขามีความพร้อมริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ

โดยล่าสุดมีการพัฒนาโครงการฝึกงานภาคฤดูร้อนของบริษัท ไลน์คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่เรียกว่า โครงการ “LINE ROOKIE” ซึ่งโครงการนี้ถูกออกแบบเพื่อให้นักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้าย หรือนักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานจริงมาก่อนได้เรียนรู้การทำงานจริง ที่มากกว่าการฝึกงาน เพื่อเตรียมพร้อมกับการเข้าสู่โลกของการทำงานในอนาคต

• ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
• NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
• ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”

“กานต์ กิมสวัสดิ์” หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไลน์ คอมพานี(ประเทศไทย) จำกัด หรือ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อก่อนเรามีการรับนักศึกษาฝึกงาน แต่เป็นการรับเพียง2-3 คนต่อปี ดังนั้น LINE จึงพัฒนาโครงการ LINE ROOKIE ขึ้นมา เพราะต้องการเป็นองค์กรแห่งการสร้างโอกาส เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากเข้าร่วมเรียนรู้ และเติบโตจากการทำงานจริง โดยโครงการนี้มีในหลายประเทศทั่วโลก แต่รูปแบบจะแตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละประเทศซึ่ง LINE ประเทศไทย เปิดโครงการ LINE ROOKIE ปีนี้เป็นครั้งแรก

“จุดเด่นของโครงการคือการช่วยให้ผู้ฝึกงานได้เรียนรู้ รวมถึงได้รับประสบการณ์อันมีค่าจากพนักงานของไลน์ หรือที่เรียกว่า LINERs ที่คอยให้คำปรึกษา และสอนงานแบบตัวต่อตัวกับผู้เข้าร่วมโครงการตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ เพราะเราต้องการให้น้อง ๆ รอบรู้ นอกจากจะได้ประสบการณ์ทำงานจริงแล้ว ยังจะได้เข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของไลน์ด้วยว่าเป็นองค์กรที่มีความเป็นกันเอง และเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ทำให้น้อง ๆ ได้ทักษะทางสังคม”

“จุดเริ่มต้นของโครงการในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2563 โดยทีม HR ร่วมมือกับแต่ละหน่วยธุรกิจในองค์กร คิดออกแบบโครงการสร้างทักษะให้คนรุ่นใหม่ โดยต้องการให้เป็นโครงการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมนวัตกรรม และให้น้อง ๆ ได้ร่วมงานอย่างข้ามสายงานในองค์กรของไลน์ได้ ที่สำคัญ จะต้องได้ใช้ ecosystem ของไลน์ ให้เกิดประโยชน์ เราจึงให้น้อง ๆ ที่สนใจศึกษาข้อมูลของโครงการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชั่นของไลน์ ชื่อว่า Line Career Thailand”

“โดยเปิดรับสมัครเมื่อเดือนมกราคม 2563 และมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน จากนั้นจะทำการคัดเลือกจากโปรไฟล์ และคุณสมบัติที่น้อง ๆ นำเสนอตัวเองเข้ามา จนเหลือ 20 คนสุดท้ายที่ผ่านการสัมภาษณ์อย่างน้อยคนละ 2 รอบ เพื่อคัดหาคนที่ใช่ที่สุด เพราะเรามองหาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สนใจในนวัตกรรม มีจิตสำนึกส่วนร่วมในการเป็นเจ้าขององค์กรสูง (sense of ownership) และจะต้องมีเอกลักษณ์ที่มีความแตกต่าง ซึ่งตรงกับบุคลิกองค์กรของไลน์ ขณะเดียวกันจะต้องสามารถใช้ภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้ เพราะการสื่อสารทางอีเมล์ในองค์กรของเราเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด”

“กานต์” อธิบายต่อว่า โครงการเริ่มให้น้อง ๆ มาเข้ามาเรียนรู้ที่องค์กรในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยเริ่มจากการปฐมนิเทศที่พี่ ๆ แต่ละหน่วยธุรกิจมาแชร์เกี่ยวกับงานในแต่ละหน่วยงาน และพูดถึงจุดเด่นของแต่ละโปร์ดักต์ว่ามีอะไรบ้าง ในสัปดาห์แรกน้อง ๆ จะได้ทำงานจริงตามหน่วยงานที่สนใจ เพื่อสร้างความกลมกลืน และความคุ้นเคยกับทีมให้เร็วที่สุด นอกจากนั้น ผู้ร่วมโครงการจะได้รับโอกาสให้เป็นผู้แสดงศักยภาพทางความคิด ด้วยการแข่งขัน WOW Ideas เป็นโปรเจ็กต์ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดริเริ่ม และสร้างสรรค์อย่างเต็มที่

“น้อง ๆ จะแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยเราให้โจทย์ไปกว้าง ๆ เพื่อให้คิดไอเดียใหม่ขึ้นมาที่เหมาะกับไลน์ธุรกิจของตนเอง โดยเริ่มจากการเลือกโปรดักต์ก่อน เช่น Line TV หรือ Line Shopping เป็นต้น จากนั้นค่อยหาอินไซด์ว่ามีความท้าทายทางธุรกิจอะไรบ้าง ส่วนทาง LINERs สามารถให้โจทย์กับน้อง ๆ เกี่ยวกับโปรดักต์นั้นได้ และเรามีที่ปรึกษาจากทีม HR คอยดูแลน้อง ๆ อย่างใกล้ชิด และทุกสัปดาห์จะมีการอัพเดตและประชุมร่วมกัน และทุกวันพฤหัสบดีจะมี talk and training ทั้งหมด 6 เซ็กชั่น”

“จากที่เราทำการศึกษาคนรุ่นใหม่ในบริบทของไทยเพื่อดูว่า พวกเขาต้องการอะไรบ้าง จะนำมาใช้ใน talk and training และพบว่า คนรุ่นใหม่ยุคนี้ต้องการเป็นผู้ประกอบการ เราจึงจัดเซ็กชั่นผู้ประกอบการ ที่มีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมาร่วมแชร์ประสบการณ์ให้น้อง ๆ ฟัง นอกจากนั้นยังมีการแชร์ประสบการณ์ทำงานของ LINERs ที่เป็นประโยชน์ และบางครั้งมีการเทรน hard skill ทักษะด้านความรู้ที่ใช้ในการทำงาน เช่น การใช้เทคนิคต่าง ๆ อีกด้วย”

“ช่วงกลางโปรแกรม (สิ้นเดือนมิถุนายน) มีเซ็กชั่น one-on-oneให้น้อง ๆ แต่ละคนพูดคุยกับทีม HR เป็นการส่วนตัว ถึงประสบการณ์ที่อยู่ร่วมในโครงการว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้ปรับปรุง โดยเราไม่อยากมีการวัดผลตอนท้ายโปรแกรม เพราะจะแก้ไขอะไรไม่ทัน จากนั้นตอนจบโปรแกรมในเดือนกรกฎาคม 2563 น้อง ๆ จะพรีเซนต์โปรเจ็กต์การแข่งขัน WOW Ideas ที่ได้ทำไว้

โดยตลอดระยะเวลาของโครงการ น้อง ๆ จะได้รับการปฏิบัติตัวเหมือนเป็นพนักงานของไลน์ ทั้งยังได้รับผลประโยชน์และสวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทนจากการฝึกงาน, อาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรี และเมื่อจบโครงการแล้ว น้อง ๆ จะมีหมายเลขรุ่น และจะมีโครงการสานความสัมพันธ์ของน้อง ๆ ในแต่ละรุ่น เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานที่เราต่อยอดให้น้อง ๆ ในโครงการ”

“พิมพ์ชนก อัศวสถิตย์พร” บัณฑิตจบใหม่จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เข้าร่วมโครงการ LINE ROOKIE ปีที่ 1 บอกว่า สนใจเข้าร่วมโครงการเพราะว่าอยากค้นหาตัวเองว่าถนัดงานด้านไหน อยากมาให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เพื่อเป็นทิศทางเดินต่อไปในโลกแห่งการทำงาน และไลน์เป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมน่าสนใจ เพราะเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิด และลงมือทำ

“การทำงานที่นี่เป็นการฝึกรับมือกับความท้าทายในโลกการทำงานที่แท้จริงเพราะสิ่งที่ได้รับมอบหมายคือ การลงมือปฏิบัติ และมีผลต่อปลายทางที่เป็นลูกค้าจริงดังนั้นจะมีปัญหาอุปสรรคที่เราต้องคำนึงถึงรอบด้าน ซึ่งไลน์เป็นองค์กรที่ให้โอกาสกับความผิดพลาด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นเพื่อพัฒนาตัวเอง”

“ภูดิศ วิภาคณาวุฒิ” บัณฑิตจบใหม่จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เข้าร่วมโครงการ LINE ROOKIE ปีที่ 1 บอกว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองหลังจากเข้าร่วมโครงการมาครึ่งทางชัดเจนมาก โดยมีทักษะการทำงาน การพรีเซนต์ และการหาข้อมูลเพิ่มขึ้น

“ไลน์เป็นองค์กรที่ให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กร จึงกระตุ้นให้ผมอยากพัฒนาศักยภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และต้องคิดไอเดียใหม่ ๆ เพื่อทำส่วนงานที่เราได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด”

“ภูษิตา สงวนเศรษฐกุล” นักศึกษาปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้เข้าร่วมโครงการ LINE ROOKIE ปีที่ 1 กล่าวว่า การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นการเรียนรู้ความรู้พื้นฐานในสายงานวิศวกรรม แต่พอมาฝึกงานที่นี่ ทำให้มีความรู้ลึกขึ้น

“ที่ไลน์สอนให้เราคำนึงถึงความรอบคอบในการทำงาน เพราะการทำงานของเราส่งผลต่อผู้ใช้ไลน์กว่า 40 ล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และการพัฒนาโปรดักต์ต่าง ๆ สามารถปรับตามความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ที่สำคัญ การได้เรียนรู้จากที่นี่ และการเข้าร่วมโครงการ LINE ROOKIE ช่วยทำให้เราฝึกทักษะรอบด้าน จึงคิดว่าน่าจะเป็นใบเบิกทางที่ดีในโลกของการทำงาน”

จึงนับว่าเป็นโครงการที่ให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการฝึกงานอย่างแท้จริง