5 สิ่งจูงใจคนรุ่นใหม่ ไม่ย้ายงาน

โดย แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ JobThai.com

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่มีทัศนคติ และค่านิยมในการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะคนรุ่นใหม่มักมองหาความก้าวหน้า ความท้าทาย และค่าตอบแทนที่ได้รับเป็นสำคัญ ซึ่งต่างจากคนรุ่นก่อนที่เลือกความมั่นคงในหน้าที่การงาน

นอกจากนี้ ในโลกปัจจุบันที่ไร้พรมแดน ทำให้คนรุ่นใหม่มีช่องทางการหารายได้ที่มากมาย นอกเหนือจากการทำงานประจำ จึงมีคนรุ่นใหม่หันไปประกอบอาชีพอิสระกันมากขึ้น ซึ่งที่กล่าวมาเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายองค์กรต้องปรับวิธีการบริหารพนักงานรุ่นใหม่ รวมถึงหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างความผูกพันและรักษาพนักงานรุ่นใหม่ให้รู้สึกอยากทำงานกับองค์กรยาวนานขึ้น เพื่อให้องค์กรยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) จึงทำแบบสำรวจความคิดเห็นคนทำงานรุ่นใหม่ทั่วประเทศกว่า 1,500 คน พบว่ามี 5 สิ่งที่คนทำงานรุ่นใหม่มองว่าเป็นแรงจูงใจให้อยากทำงานอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ ดังนี้

หนึ่ง สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี คิดเป็น 15.07 เปอร์เซ็นต์ – เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการทำงานของพนักงาน หากองค์กรมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ยิ่งจะช่วยทำให้พนักงานเกิดความพึงพอใจในการทำงาน สามารถทำผลงานให้ออกมาดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ นอกจากจะช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรแล้ว ยังเป็นปัจจัยดึงดูดความสนใจของบุคลากรที่มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานกับองค์กรอีกด้วย

สอง เส้นทางความก้าวหน้าในสายงานที่ชัดเจน คิดเป็น 13.08 เปอร์เซ็นต์- คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีความกระตือรือร้น และต้องการความสำเร็จในการทำงานที่รวดเร็ว ดังนั้นหากองค์กรสามารถสื่อสารให้เห็นถึงความก้าวหน้าหรือช่องทางการเติบโตในสายงานได้อย่างชัดเจน ก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ให้อยากทำงานกับองค์กรต่อไป

สาม งบประมาณในการอบรมพัฒนาความรู้ของพนักงาน คิดเป็น 12.36 เปอร์เซ็นต์ – เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้สามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้พนักงานมีทัศนคติที่ดีกับองค์กร และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตไปพร้อมกับองค์กรในระยะยาว

สี่ ความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร คิดเป็น 11.62 เปอร์เซ็นต์ – ความสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งที่ช่วยให้การดำเนินงานในองค์กรราบรื่น การพูดคุยและประสานงานในแต่ละหน่วยงานล้วนมีผลมาจากความสัมพันธ์ทั้งสิ้น ดังนั้นหากองค์กรรู้จักสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในองค์กรก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำงาน ทำให้พนักงานเกิดความพึงพอใจ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ห้า เปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพและความคิดเห็นอย่างเต็มที่ คิดเป็น 11.48 เปอร์เซ็นต์ – การที่พนักงานได้แสดงศักยภาพและความคิดเห็นจะทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรได้เห็นมุมมองหรือไอเดียใหม่ ๆ ที่อาจต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงเป้าหมายการทำงานในอนาคตอีก 10 ปี ข้างหน้าของคนทำงานรุ่นใหม่ โดยส่วนใหญ่บอกว่าต้องการเป็น 1) เจ้าของกิจการ คิดเป็น 55.24 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย 2) ข้าราชการ คิดเป็น 21.22 เปอร์เซ็นต์ 3) พนักงานเอกชนขององค์กรต่างประเทศ คิดเป็น 6.79 เปอร์เซ็นต์ 4) พนักงานรัฐวิสาหกิจ คิดเป็น 6.47 เปอร์เซ็นต์ และ 5) พนักงานเอกชนขององค์กรไทย คิดเป็น 6.08 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ซึ่งก็สอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่ต้องการทำงานที่เป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายขององค์กรในการดูแลรักษาพนักงานกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม นอกจากการสำรวจฝั่งคนทำงานรุ่นใหม่แล้ว เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม ยังสำรวจความคิดเห็นของฝ่ายทรัพยากรบุคคลจากหลากหลายองค์กร กว่า 480 คน ในสิ่งที่องค์กรใช้เป็นแรงจูงใจให้แก่พนักงานรุ่นใหม่ ได้แก่ 1) เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงศักยภาพและความคิดเห็นอย่างเต็มที่ คิดเป็น 15.34 เปอร์เซ็นต์ 2) มีความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร คิดเป็น 12.92 เปอร์เซ็นต์ 3) มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี คิดเป็น 11.63 เปอร์เซ็นต์ 4) มีงบประมาณในการอบรมพัฒนาความรู้ของพนักงาน คิดเป็น 10.09 เปอร์เซ็นต์ และ 5) เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหาร คิดเป็น 9.26 เปอร์เซ็นต์

ดังจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ทั้งคนทำงานรุ่นใหม่ และองค์กรมองเห็นตรงกัน

ดังนั้น หากองค์กรนำข้อมูลที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาจจะช่วยให้สามารถรักษาพนักงานรุ่นใหม่ให้ทำงานร่วมกับองค์กรต่อไปได้