ช่วย SME แจกเงินหนุนจ้างงานแล้ว 8.4 พันล้านบาท ขยายต่อเฟส 2 ทันที

พักหนี้-ยืดหนี้-sme-รายย่อย

โครงการแจกเงิน SME เฟส 1 กระตุ้นการจ้างงานคนไทยเพิ่ม 1.9 หมื่นราย กระทรวงแรงงานชวนนายจ้างที่พลาดรอบแรก ลงทะเบียนเฟส 2 ก่อนวันที่ 20 ธ.ค.นี้

วันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs โดยกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน มีกำหนดจ่ายเงินอุดหนุนแก่นายจ้าง/สถานประกอบการที่รักษาการจ้างงานในช่วงเดือนตุลาคม 2564 –พฤศจิกายน 2564 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 โดยงวดแรกจ่ายเงินในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่ง กกจ.ได้จ่ายเงินอุดหนุนไปเป็นจำนวน 197,899 ราย ที่มีลูกจ้างสัญชาติไทย 2,803,472 คน เป็นยอดเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 8,410,416,000 บาท

ส่งผลให้มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 19,090 คน แบ่งเป็นกิจการขนาดเล็กที่มีลูกจ้าง 1 – 50 คน จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 15,251 คน และกิจการขนาดกลางที่มีลูกจ้าง 51 – 200 คน จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 3,839 คน หากนายจ้าง/สถานประกอบการรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับเงินอุดหนุนอีกในเดือนธันวาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 3 เดือน

และหากนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริงไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ (201,647 ราย) โดยลูกจ้างจะต้องทำงานกับนายจ้างรายเดียว

หากใครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการก่อนจะได้รับสิทธิก่อน จนครบตามจำนวน 2 เดือน เดือนละไม่เกิน 201,647 ราย ทั้งนี้ นายจ้างจะต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-service ของสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2564 และจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ จึงจะมีสิทธิรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

ทั้งนี้ ประเภทกิจการที่มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มมาที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. โรงแรมรีสอร์ท
  2. การบริการทำความสะอาด
  3. การรักษาความปลอดภัย
  4. การบริการด้านอาหารในภัตตาคารร้านอาหาร
  5. ร้านสะดวกซื้อมินิมาร์ท

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ได้รับสิทธิในรอบที่ 1 และยังไม่ได้รับเงินมีจำนวน 1,263 ราย เป็นเงินอุดหนุนถึง 44,229,000 บาท นายจ้าง/สถานประกอบการสามารถติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานเพื่อปรับปรุงข้อมูล หรือแนบรายละเอียดเพิ่มเติม

โดยสาเหตุที่ทำให้การโอนเงินไม่สำเร็จมีดังนี้ บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 6 เดือน บัญชีปิดแล้ว บัญชีติดเงื่อนไขในการโอนเงินเข้า บัญชีเงินฝากแบบพิเศษไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีเงินฝากแบบประจำไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีตั้งเงื่อนไขจำนวนเงินในบัญชีต้องไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้นายจ้าง สถานประกอบการต้องติดต่อธนาคารสาขา ที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบ แก้ไข และหมายเลขบัญชีไม่ถูกต้อง

นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ active) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 และยังไม่ได้ลงทะเบียนร่วมโครงการในเฟสแรก ขณะนี้กรมการจัดหางานยังเปิดให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ลงทะเบียนร่วมโครงการเฟสที่ 2 ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2564

สำหรับนายจ้างที่ลงทะเบียนในเฟสที่ 2 จะรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในอัตรา 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ เดือนธันวาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565 โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนเช่นเดียวกับนายจ้างที่ลงทะเบียนรอบแรก

ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯผ่านระบบด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารซึ่งประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี) และสำเนาหนังสือรับรองการจะทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ

แล้วติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694