ดีไลฟ์

เล็ก-ณพาภรณ์ เปิดบ้านปาร์ค…จัดงานดอกไม้ ปูพรมกลีบดอกไม้ใหญ่สุดในเอเชีย

เป็นปีแรกที่จะได้เห็นงานดอกไม้จากบ้านปาร์คนายเลิศที่เปลี่ยนจากจัดในโรงแรมปาร์คนายเลิศ ซึ่งตอนนี้กลายเป็น BDMS Wellness Clinic ไปแล้ว ปีนี้ “เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล จึงอยากสานต่อเจตนารมณ์คุณยาย (ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ) ผู้สร้างสรรค์งานดอกไม้จนเป็นที่โด่งดังและรู้จักกันไปทั่ว

ปีนี้ “เล็ก-ณพาภรณ์” สตรีตัวเล็กที่จัดงานยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ในชื่อ Nai Lert Flower & Garden Art Fair ฉีกกฎการจัดจากห้องในโรงแรมกลายมาเป็นการจัดงานดอกไม้นอกสถานที่ ด้วยการปูพรมกลีบดอกไม้ผืนใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน พร้อมกับเนรมิตพื้นที่รอบ ๆ บ้านปาร์คอายุ 100 กว่าปี เป็นสวนดอกไม้ที่งดงาม และมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยเดินทางมาชมความงามของดอกไม้ และกิจกรรมที่จะสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยให้กับเยาวชนไทย ผ่านดอกไม้หลายล้านดอก โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 2 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2561 นี้

แน่นอนว่านอกจากดอกไม้ที่นำมาประดับตกแต่งใหม่แล้ว ดอกไม้ ต้นไม้เดิมที่มีอยู่ต่างก็พร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งรับงานดอกไม้แบบไม่มีต้นไหนยอมกันเลยทีเดียว ล่าสุด ต้นอโศกน้ำ ดอกไม้ที่หาชมได้ยากมากในตอนนี้ก็ออกดอกสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยว ราวกับนัดกันไว้

ภายในงานแบ่งโซนแห่งความประทับใจออกเป็น 4 โซนด้วยกัน คือ Flower X Art (ดอกไม้และงานศิลป์) จัดแสดงประติมากรรมดอกไม้กลางแจ้ง โดยมีไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ การสร้างสถิติระดับเอเชีย การจัดพรมดอกไม้ขนาด 450 ตารางเมตร โดยเหล่าศิลปินไทย พงษธัช อ่วยกลาง, ประจักษ์ สุปันตี และนักจัดดอกไม้ระดับนานาชาติ เช่น ศักดิ์ชัย กาย, สกุล อินทกุล และชยพร โตเมศร์

ทั้งนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้กับเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ในการโชว์ฝีมือผ่านการประกวด 3 หัวข้อ ดังนี้ การประกวดประติมากรรมดอกไม้ “เล่าขานตำนานดอกไม้ไทย” การประกวดจัดสวน “สีสันแห่งฤดูกาล” และการประกวดการตกแต่งงานแต่งงาน “Love in Bloom” ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัล เกียรติบัตร ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และบัตรเข้าชมงานดอกไม้ เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ 2018 ณ กรุงลอนดอน

ภายในบ้านจะได้สัมผัสความงามของสิ่งของอันทรงคุณค่า และการจัดดอกไม้ในยุคสมัยต่าง ๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน

โซนต่อมา Flower X Fashion (ดอกไม้และแฟชั่น) ที่มีร้านค้ากว่า 30 ร้าน จำหน่ายสินค้าที่มีแนวคิดแบบสร้างสรรค์ ผลงานหัตถกรรมของไทย และพลาดไม่ได้กับ Tote Bag จากแบรนด์ดังอย่าง อาซาวา และชุดเดรส จากแบรนด์วทานิกา ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่องานนี้เท่านั้น

ตามด้วยโซน Flower X Taste (ดอกไม้และอาหารการกิน) โดยมีอาหารสุดพิเศษจาก 20 ร้านดังทั่วประเทศ และในส่วนของร้านอาหาร มา เมซอง และร้าน เลดี้ แอล จะมีการนำเสนอรายการอาหารที่มีส่วนผสมเป็นดอกไม้นานาชนิด และปิดท้ายความประทับใจด้วยโซน Flower X Play (ดอกไม้และงานสร้างสรรค์) สนุกกับกิจกรรมการทำลูกชุบ คอร์สการปั้นดอกไม้จากดิน และกิจกรรมการจัดดอกไม้ที่สอนโดยช่างจัดดอกไม้ชื่อดัง

เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร เล่าว่า งานนี้เป็นการจัดงานแบบ outdoor ครั้งแรก และมีลักษณะเป็นงาน art fair เพราะว่าในปีนี้เราจะขยายกลุ่มลูกค้า รวมถึงยกระดับงานให้เป็นงานระดับเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตอนนี้เราอยู่ใน Amazing Thailand จึงอยากจะทำให้งานนี้เป็นงานที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตามาดูของสวย ๆ มาทานของอร่อย ๆ และมาช็อปปิ้งกันด้วย คือเรามี art market ในราคาย่อมเยา ของที่เป็น limited edition ทั้งหลายก็จะมาปรากฏอยู่ในงานนี้

ไฮไลต์ใหญ่ก็คือ พรมดอกไม้กลางสนามใหญ่ของบ้าน ซึ่งเป็นพรมดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเท่าที่เคยทำ เพราะว่าพื้นที่ตรงกลางสนามบ้านใหญ่ประมาณ 500 ตารางเมตร จะปกคลุมไปด้วยกลีบดอกไม้ทั้งหมด กลุ่มลูกค้าที่จะมาชมคือ คนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพราะว่าเขาให้ความสนใจดอกไม้ในเอเชียอยู่แล้ว คาดว่าจะมีคนเข้ามาชมงานหลายพันคนต่อวัน

ในส่วนของรายได้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ให้ที่โรงเรียนบ้านทะโลงเหนือ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอีกส่วนหนึ่ง เพิ่งได้คุยกับรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา มีโครงการที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นสากลและได้มาตรฐานมากขึ้น คืออยากจะทำให้สถานที่ต่าง ๆ เช่น วัดวาอารามต่าง ๆ ให้มีทางลาดสำหรับคนพิการ สำหรับคนสูงอายุ จึงไปสนับสนุนในส่วนนี้ด้วย
ทางด้าน นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ผู้อำนวยการ Bangkok Royal Life Anti-Aging Center โรงพยาบาลกรุงเทพ เล่าถึงที่มาในการร่วมจัดงาน Nai Lert Flower & Garden Art Fair ในครั้งนี้ว่า จริง ๆ แล้ว

ก็เรียกได้ว่า เป็นเพื่อนบ้านกันแล้วทางกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพได้สร้าง BDMS Wellness Clinic ขึ้นมา จะเห็นว่ามีสัญลักษณ์เป็นรูปต้นไม้ เพราะว่าสิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างเห็นพ้องต้องกัน คือว่าเรื่องของสุขภาพ ร่างกายมนุษย์ เปรียบกับต้นไม้ ฉะนั้น สัญลักษณ์เรียกว่า Tree of Life คือเรื่องต้นไม้แห่งชีวิต ถ้าใครไปอ่านดูในประวัติศาสตร์โบราณ จะเห็นว่าเขาใช้ Tree of Life ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นการสะท้อนถึงสุขภาพดี ของมนุษย์มาหลายพันปีแล้ว

“งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับประเทศที่จัดมายาวนาน จึงสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะว่าไม่ใช่เรื่องของการเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่โดยคอนเซ็ปต์จริง ๆ แล้ว สนับสนุนกันในทุก ๆ ด้าน BDMS Wellness Clinic พยายามที่จะกระตุ้นให้ประเทศไทยให้เป็นสถานที่สำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ”

ศิลปินผู้รังสรรค์ความงดงามของดอกไม้ ศักดิ์ชัย กาย เล่าว่า อาจจะเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ ทั้งเรื่องต้นไม้และก็วิธีการจัดดอกไม้ ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว การจัดดอกไม้ที่เป็นสากลยังใหม่มากในสังคมไทย น่าจะเป็นวิชั่นของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ ที่อยากจะนำสิ่งนี้เข้ามาอยู่ในสังคม โดยเฉพาะในกรุงเทพฯจะเห็นได้ว่า งาน Flower Show จัดครั้งแรกในประเทศไทย เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของความคิดใหม่ ๆ เป็นศูนย์รวมของศิลปิน ศูนย์รวมของการคิด การอ่าน การสร้าง การจัดดอกไม้

ขณะที่ “หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้เจมส์ จำกัด กล่าวถึงความสำคัญในการเข้าร่วมจัดงานว่า ประเทศของเราเป็นผู้ผลิตอัญมณีรายใหญ่ของโลกให้กับแบรนด์ต่าง ๆ มากว่า 50 ปี อัญมณีเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ คนงานสองล้านกว่าคน ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่เป็นรายได้หลักให้กับประเทศ จริง ๆ เราควรเติมคำว่า Amazing Thailand Land of Jewel เข้าไปด้วย สมมุติเราไปฝรั่งเศส เราซื้อหลุยส์ฯ เราไปญี่ปุ่น เราไปออนเซ็น ถ้าเรามาเมืองไทย เรามาพักโรงแรมสวย ๆ เราไปภูเขา ไปทะเล ไปน้ำตก พวกนี้ก็ถือว่าเป็นของล้ำค่า

“ผมต้องขอบคุณน้องเล็กที่มีวิสัยทัศน์ตรงนี้ขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว เรารู้จักกับทางครอบครัวนี้ คุณแม่เป็นเพื่อนท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ครับ มีโอกาสรับใช้ท่านในหลาย ๆ โอกาสด้วย ฉะนั้นจึงได้มีเมตตาในเรื่องของการสอนต่าง ๆ ผมก็ได้นำมาเป็นแนวทาง ในงานนี้เรียกได้ว่าพิเศษจริง ๆ เราได้รังสรรค์ดอกไม้จริง เพชรแท้ ทองคำแท้ จำนวน 103 ชิ้น มาร่วมโชว์ในงานนี้และจำหน่ายด้วย ถ้ามีคนสนใจต้องการซื้อ”

งานนี้เป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวสัมผัสมุมมองใหม่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหาร และความงดงามของดอกไม้ ในวันที่ 2 ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 09.00 น. ถึง 20.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 100 บาท และนักเรียน นักศึกษา ราคา 80 บาท