ธุรกิจจัดตั้งใหม่ ต.ค. 65 เพิ่มขึ้น 18% หลังโควิดผ่อนคลาย เศรษฐกิจฟื้น

จดทะเบียนธุรกิจเดือนแรกยอดพุ่ง
ภาพโดย Sozavisimost from Pixabay

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวน 5,911 ราย เพิ่มขึ้น 6% เลิกธุรกิจลดลง 0.1% ผลจากเศรษฐกิจฟื้นจากโควิด ขณะที่ 10 เดือนจดทะเบียนธุรกิจใหม่รวม จำนวน 66,707 ราย

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวน 5,911 ราย เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 5,555 ราย และลดลง 18% เมื่อเทียบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 7,219 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 34,606.73 ล้านบาท เป็นผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มขึ้นจากโควิดผ่อนคลาย

จิตรกร ว่องเขตกร
จิตรกร ว่องเขตกร

ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 502 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 479 ราย คิดเป็น 8% และอันดับ 3 คือธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารจำนวน 273 ราย คิดเป็น 5%

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวน 1,973 ราย ลดลง 0.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 1,976 ราย และเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 7,315.55 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 166 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 125 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารจำนวน 44 ราย คิดเป็น 2% ตามลำดับ

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ต.ค. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 849,958 ราย  มูลค่าทุน 20.56 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจำนวน 201,330 ราย คิดเป็น 23.69% บริษัทจำกัด จำนวน 647,253 ราย คิดเป็น 76.15% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,375 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ทั้งนี้ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 66,707 ราย และการจดทะเบียนเลิกของ 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 13,412 ราย ในขณะที่จำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2565 มีจำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวน 849,958 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (31 ตุลาคม 2564) คิดเป็น 5%

ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนตุลาคม 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นมีจำนวน 44 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจจำนวน 27 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,059 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 (มกราคม-ตุลาคม 2565) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 480 ราย เพิ่มขึ้น 8% เงินลงทุน 106,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม-ตุลาคม 2564)

สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่นจำนวน 15 ราย เงินลงทุน 2,756 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ฮ่องกงจำนวน 5 ราย เงินลงทุน 579 ล้านบาท และสิงคโปร์จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 268 ล้านบาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ในภาพรวมของเศรษฐกิจ ในหลายภาคส่วนธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว จากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ซึ่งสะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และแม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของหลายประเทศในโลก ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อจากต่างประเทศจากปัจจัยดังกล่าว

ประกอบกับข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) พบว่าแนวโน้มของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จะมีจำนวนสูงในช่วงต้นปี และจะทยอยลดลงในช่วงปลายปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ระหว่าง 68,000-72,000 ราย