สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ลุ้นผลโหวตนายกฯ หวังรัฐบาลใหม่เดินหน้า 5 ข้อเสนอพิธา มาตรการช่วย SMEs เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย (สมาพันธ์ SMEs) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทางสมาพันธ์ติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดจะมาทำงาน ปัญหาเอสเอ็มอีน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกพรรคให้ความสำคัญและต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง
- ครม.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐา-เพื่อไทย รุกแก้เศรษฐกิจ
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- รมว.อุตสาหกรรม จี้ปลัดรู้ก่อน อธิบดีกรมโรงงานฯ ลาออก ไม่รายงาน
ส่วนตัวมองว่า อยากให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสมาบริหารประเทศ ควรเคารพเสียงประชาชนที่ให้โอกาสทำงาน ไม่ใช่ลองทำ แต่เราต้องกล้าเปลี่ยนแปลง สุดท้ายประชาชนจะตัดสินอีกครั้ง
โดยมองว่าแนวคิดการออกแบบนโยบายดี ผลงานสภาเยี่ยม กล้าคิด พูดทำ แต่ต้องสุขุม ใจเย็น เพราะเป็นผู้นำประเทศที่อยู่กับความคาดหวังของคนทั้งประเทศ บางอย่างต้องระวังบางเรื่อง เช่น การแก้ไข มาตรา 112 ซึ่งจะทำให้ได้แนวร่วมอีกมาก ทำเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำก่อน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 สมาพันธ์เอสเอ็มอีมีการประชุมร่วมกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพิธารับข้อเสนอที่จะตั้งสภา SMEs และนโยบายหวยใบเสร็จ หลังจากที่สมาพันธ์ SMEs ได้เสนอนโยบายเพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็น SMEs ผ่าน 5 มาตรการเร่งด่วน ซึ่งนายพิธารับปากจะเดินหน้าทันทีหากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ซึ่ง 5 มาตรการคือ
- มาตรการปลุกเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
- มาตรการแก้ไขปัญหาต้นทุน SMEs และค่าครองชีพประชาชน โดยโฟกัสเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน
- มาตรการเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำ SMEs และฟื้นฟูหนี้ NPL สร้างแต้มต่อดอกเบี้ย SMEs และการส่งเสริมให้เกิดกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา SMEs
- มาตรการยกระดับขีดความสามารถ SMEs และภาคแรงงาน บ่มเพาะนวัตกรรม
- มาตรการแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคของ SMEs