ราคาน้ำมันดิบ (21 ส.ค. 66) ปรับเพิ่ม จากสัญญาณอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐชะลอตัว

ราคาน้ำมันดิบ
Photo : Pixabay

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากสัญญาณอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐชะลอตัว

วันที่ 21 สิงหาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ผลผลิตในอนาคตปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่หกติดต่อกัน โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ส.ค. ปรับลดลงจำนวน 5 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 520 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค. 65

ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลงจำนวน 6 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 117 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 65 ซึ่งการลดลงของการผลิตในสหรัฐ อาจทำให้อุปทานตึงตัวมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสเมื่อ 18 ส.ค. 2566 อยู่ที่ 81.25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.86 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 84.80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.68 เหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงประมาณ 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ และทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนต่าง ๆ ในตลาดที่มีความเสี่ยง

ตลาดยังคงจับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ ที่คาดว่าจะยังไม่ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น อาจขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ และทำให้อุปสงค์น้ำมันโดยรวมลดลง อีกทั้งราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในช่วงนี้

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการคาดการณ์ว่าจีนจะส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น อีกทั้งอุปทานน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย จากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในปากีสถาน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะมาเลเซีย แม้ว่าน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 7.39% แตะระดับ 7.52 ล้านบาร์เรล